วันอังคารที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2553

Motorolla Dynatac ความภาคภูมิใจของผม ที่ต้องแลกกับ...






ซื้อมาจาก ร้าน D-Mart Phone ตลาดปัฐวิกรณ์ ราคา 7000 บาท อยากได้โทรสัพท์แบบนี้มาใช้ตั้งนานแล้ว ภูมิใจมาก

แต่บนความภุมิใจและดีใจที่ฝันของผมเป็นจริงนั้น มูลค่า 7000 บาทที่จ่ายไป 3000บาทมาจากเงินของพ่อแม่ผม และ 4000 บาทของผม คือเงินเก็บก้อนสุดท้ายของผม
แม่ผมกับพ่อผมยังตกใจเลยว่า ทำไมแพงจัง ตอนแรกผมกะจะซื้อ Siemens อีกเครื่อง ที่ราคาแค่ 2000 แต่พ่อแม่ผมเห้นว่า ผมอยากได้เจ้า dynatac นี้มาก เลยให้ยืมก่อน พอ่แม่ผมเองก็ไม่ห้ามอะไรในการที่ผมสะสมของพวกนี้ รวมถึงเกมเก่าด้วย และก็ไม่ได้ห้ามในการใช้ชีวิตในแบบที่ผมอยากจะเป็น แต่ก็ไม่ได้สปอยประเภทอยากได้อะไรตามใจให้ทุกอย่างแบบไร้เหตุผล
แต่ผมสัมผัสความรู้สึกของพ่อกับแม่ผมได้เลยว่า ดุจะไม่ได้รู้สึกอะไรในแง่บวกสักเท่าไหร่กับการจ่ายเงินไปกับโทรศัพท์เครื่องนี้ของผม แม้พวกท่านจะไม่ได้ว่าหรือแสดงสีหน้าอะไรโดยตรงก็ตาม และพ่อแม่ผมเองก็มีแผนจะพาไปพักผ่อนที่สิงค์โปร์ แต่ถูกเลื่อนมาหลายรอบ เพราะปัญหาเรื่องวันหยุดและความไพร้อมเรื่องเงินในบางช่วง
และตอนนี้ ผมไม่มีงานทำ สิ่งเดียวที่ผมทำหลังจากรู้ว่าเรียนจบคือ นอนอยู่บ้าน ดูทีวี เล่นเกม ทำงานบ้านนิดๆหน่อยๆ พ่อแม่ทิ้งเงินไว้ให้ซื้อข้าวเที่ยง และนิสัยส่วนตัวของผม ไม่ได้มีความใกล้เคียงกับคำว่า Goodman อันเป็น username ของผมเลยด้วยซ้ำ อย่างหนึ่งก็คือ เรื่องคำพูดคำจาของผม ที่เป็นแบบ ปากไม่มีหูรูด เหมือนมี หางดาบ ปักกิ่ง ร๊อดไว้เลอร์ อยู่ในปาก แม้ผ่านการบวชมา 18 วันก็ยังคงไม่ทิ้งนิสัยเดิม ตอนสมัยยังเรียนอยู่ เรื่องเรียนก็ขี้เกียจอีดกต่างหาก (โชคดีที่ผมสามารถเรียนจบตามกำหนดได้)
ต่างแค่ เพราะผมไม่เคยไปข้องเกี่ยวกับเหล้า บุหรี่ ยาเสพย์ติดผิดกฎหมาย แก๊งอันธพาล การพนัน และสิ่งมอมเมาที่จะนำพาไปสู่ความวิบัติและคุกตารางทั้งหลาย ทำให้ผมยังคงมาอยู่ตรงนี้ได้ แม้จะใช้ชีวิตและมีพฤติกรรมทางวาจาที่ไม่ได้สร้างความปลาบปลื้มให้กับครอบครัวเลยก็ตาม ตอนเรียนอยู่ก็แทบไม่ยอมคบเพื่อนฝูงเลยด้วยซ้ำ ปรับตัวเข้ากับคนวัยเดียวกันไม่ค่อยได้ ตอนพ่อแม่ส่งไปให้เรียนครูก็ขอลาออกกลางคันก่อนช่วงจ่ายค่าลงทะเบียนเรียนเพราะผมไม่ได้ชอบเรียนด้านนี้ ไปหย่อนใบสมัครงานทิ้งไว้หลายที่ก็ไม่มีที่ไหนรับเข้าทำงาน เพราะยังไม่ผ่านเรื่องเกณฑ์ทหาร
และเงินเก็บที่ผมใช้มาตลอดนั้น รวมถึงที่เอามาซื้อเกมเก่า ก็มาจากพ่อแม่ผมเช่นกัน ที่ให้เป็นค่าใช้นู่นนี่แล้วสะสมมาเรื่อยๆ กับเงินขวัญถุงบัณฑิตใหม่จากยายผมอีก 7000 ที่ได้มาเมื่อต้นปี ซึ่งตอนนี้เหลือไม่พอแม้แต่จะซื้อตลับ famicom สักตลับด้วยซ้ำ ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา เคยหาเงินเองได้ก็ตอนที่ไปเรียน โครงการต้นกล้าอาชีพ ได้มา 4000 กว่าบาท ก่อนหน้า3ปีนี้ก็เคยหาเงินได้ กว่า 10000 บาท จากการขายของทางอินเตอร์เน็ต แต่ตอนนี้ขายไม่ออกแล้ว และเงินนั่นก็ถูกใช้ไปจนเกลี้ยงแล้ว ในชีวิตนี้มีของมีค่าเพียง 2 สิ่ง ที่ผมเคยได้ให้พ่อกับแม่ผมคือ เครื่องเล่น DVD และ นาฬิกาข้อมือ ซึ่งมันก็เป็นของที่ผมใช้ตั้งแต่ตอนสมัยเรียน แต่สภาพยังดีอยู่
และการเข้ากรุงเทพฯครั้งนี้ ก็มีเหตุผลเดียวคือ ตัวผมเอง ที่อยากมารับของที่สั่งไว้กับมาเที่ยวตลาดปัฐฯเพื่อซื้อมือถือเครื่องนี้ แถมยังต้องมาอารมณ์บูดและเสียเวลาเพราะรถติด หลงทาง และอากาศที่อบอ้าวอีกด้วย (ต้นเหตุก็ ผมนี่แหล่ะ)
ไม่ใช่แค่มือถือเครื่องนี้ ทั้งคอมพิวเตอร์ที่ผมใช้อยู่ทุกวัน ค่าใช้ใช้จ่ายต่างๆในชีวิตประจำวัน ก็มาจากเงินพ่อแม่ผมทั้งนั้น ชีวิตผมก็ไม่ได้ขาดตกบกพร่องใดๆ แต่ก็ไม่ถึงกับรวยล้นฟ้า
วันนี้เลยรู้สึก ดีใจปนรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก ตอนขากลับพ่อแม่ผมก็แวะถ่ายรูปกันที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพราะพ่อผมเป็นคนชอบถ่ายรูป (ตั้งแต่ซื้อ Canon 450D กับอุปกรณ์เสริมอีกหลายรายการมา ก็ขยันถ่ายรูปแบบสุดๆ) อย่างน้อยพอ่แม่ผมก็ได้ประโยชน์บ้างจากการถ่อสังขารมาไกลถึงนี่ หมดค่าน้ำมัน ค่าLPGไปเกือบ 2000 และต้องรีบกลับไปทำงานวันพรุ่งนี้อีก และตอนอยู่ที่ตลาดปัฐฯ แม่ผมก็ได้กางเกงสวยถูกใจมาตัวหนึ่ง และสถานที่ท่องเที่ยวประเภทเขื่อน ธรรมชาติ พ่อแม่ผมชอบอยู่แล้ว
ตอนนี้เงินเก้บก้เกลี้ยง คงอีกนานกว่าจะได้เห็น lego และ เกมเก่า เมษายนที่จะถึงนี้ ก็เตรียมตัวไป รับใช้ชาติ เป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน หลังจากที่ผ่อนผันมานานตั้งแต่ตอนเรียน และใช้ชีวิตแบบ ทิ้งขว้างไปวันๆ มานาน 1 ปี
ระหว่างที่กำลังพิมพ์ข้อความนี้นั้น คือช่วงขากลับร้อยเอ็ด พ่อผมกำลังขับรถอยู่ แม่ผมนั่งหน้า
ก่อนไปเกณฑ์ทหาร อย่างน้อยต้องหาเงินมาใช้ที่ผมเพิ่งยืมพ่อไปในวันนี้ และอย่างน้อยชีวิตผมก็โชคดีกว่าคนอื่นๆ ที่ไม่มีแม้แต่ข้าวจะกิน หรือ บ้านจะอยู่
และขอบคุณ thairetro ที่เอื้อเฟื้อเนื้อที่ในเว็บบอร์ดให้ผมได้ตั้งกระทู้ แม้ 3 ใน 4 ของกระทู้ที่ตั้ง จะไม่เกี่ยวกับเกมเลยก็ตาม

จบดีกว่า ชักจะกลายเป็นรายการ ใครทำผิดยกมือขึ้น เข้าไปทุกที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น