วันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2553

LEGO CITY ที่อุตส่าไปหอบมาจาก Singapore













ไปมาเมื่อ 16-18 เมษายนที่ผ่านมา ได้ LEGO CITY มา 3 ชุด ได้แก่ 3177 : small car, 7893 : passenger plane, 3179 repair truck

ลงมือต่อเสร้จในคืนนั้นที่กลับมาถึงบ้านที่ร้อยเอ็ด และได้ update รูปโต๊ะโชว์ LEGO ไปในตัว ดูสวยขึ้นเยอะเลยนะ

วันอังคารที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2553

บรรยากาศเก่าๆจาก คุณปอนด์ เจ้าพ่อแห่ง TBC

จากตรงนี้ จนถึงเส้นประชุดแรก คือ คำพูดของคุณปอนด์ เจ้าพ่อ TBC ที่เหลือ คือคำพูดของผมทั้งหมดในนั้น

[quote author=Bricker® link=topic=993.msg42337#msg42337 date=1270002088]
กฎของเว็บไม่ได้มีข้อยกเว้น ใครที่ใช้ภาษาที่หยาบคายและดูเหมือนไร้การศึกษามากๆ แบบอานนท์ ผมเตือนทุกคน

อีกอย่างอย่าว่ายังงั้นยังงี้เลยนะอานนท์ ถ้าอานนท์คิดว่าจะเข้ามาป่วนที่เว็บนี้ ผมขอร้องอย่าดีกว่าครับ

อานนท์ก็เป็นคนมีการศึกษา ผมพูดเท่านี้หวังว่าคงเข้าใจนะครับ
[/quote]

------------------------------------------------
แต่ถ้าเอาคำพูดสไตล์ วิเคราะห์มูลค่าเลโก้ในไทย ไปใช้ในเว็บบอร์ดที่ผมอยู่ อาจจะมีสิทธิ์ โดนแบน 6 เดือนได้เลย และแน่นอนครับว่า โดนลบกระทู้ด้วย

แถมที่นั่น ยังมีกฎบอกไว้ชัดเจน (โดยไม่ต้องมานั่งเดาเอาเอง) ด้วยว่า 1 คน ต่อ username ใครแหกกฎข้อนี้ โดนแบน 6 เดือน คือที่นั่นน่ะ ไม่มีข้อยกเว้นของจริงครับ เป็นเพื่อนกันมานานแค่ไหน ทำผิดกฎ ถ้าตักเตือนแล้วยังเฉยหรืทอลืมแก้ไข โดนทันที

เว็บบอร์ดที่ผมอยู่ เป้นเว็บฯเกี่ยวกับของประเภทหนึ่งที่เข้าข่ายคล้ายเลโก้ คือ เป็นได้ทั้งของเล่น และของสะสม รู้จักกันทั่วทุกหัวระแหง ทุกคนนในนี้เคยใช้และอาจจะยังเก็ยไว้อยู่ (แต่บางคนอาจจะทิ้งไปเพื่อไปหาอันที่ใหม่กว่า) ส่วนใหญ่เป็นของนำเข้า ราคาที่ขายในไทยก็อยู่ในเกณฑ์ สมเหตุสมผล อาจจะถูกที่สุดใน Southeast Asia เลยก็ได้

ที่นั่นเองก้มี ส่วนสำหรับโชว์ของสะสม ที่แต่ละคนที่เอามาโขว์นั้น รวมมูลค่าแล้วแพงไม่ใช่เล่น คนที่มีมากที่สุดเห็นว่ารวมมูลค่าแล้ว ซื้อรถเก๋งอย่าง Honda City เงินสดได้เลย

มีสมาชิกแล้ว 1800 กว่าคน สมาชิกส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ที่อายุอานามทะลุ 21 ปีเป็นอย่างน้อย หลายคนก็มีลูกกันแล้ว เว็บมาสเตอร์ และ ผู้ช่วยเว็บบอร์ดที่นั่น อายุไม่ต่ำกว่า 28 ปีทุกคน (หนึ่งในนั้นมีลูกแล้วด้วย) คนส่วนใหญ่ในเว็บฯนั้น เป้นเพื่อนสนิทกันมาก่อนที่จะมาก่อตั้งเว็บฯเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่ เพื่อนนิทกัน ถ้าเผลอทำผิดกฎเมื่อไหร่ ก็ต้องโดนเหมือนกัน

ทุกกระทู้ที่ผมเคยโพสที่นี่ ผมเอาไปโพสที่นั่นหมดเลย (ยกเว้นเรื่อง LEGO) โดยตัดแต่งข้อความบางส่วนเกี่ยวกับเรื่อง LEGO ออกไปบ้าง ไม่ว่าจะเป้นเรื่อง ข้อเสียของรถ 4WD, สัจธรรม 110 ข้อ, ข้อดีของการเป้นโสด,โฆษณาไทยที่ไม่เข้าท่า และอีกทุกเรื่อง แม้จะไม่ได้กลายเป้นกระทู้ยอดนิยม (บางกระทู้ก็ตกไปแล้วหลายหน้า)แต่ก็มีคนเข้ามาตอบ มาออกความคิดเห็น ด้วยคำพูดที่ดูสุภาพ เป้นกันเอง มีความรู้เสริม หลายคนที่นั่นก็เคยเจอประสบการณืเดียวกับสิ่งที่ผมโพส ไม่มีการเอาอคติส่วนตัวมาว่ากัน (ไม่มีการมาชี้หน้าว่าผมเป็น พวกลัทธิรถเก๋ง) และไม่เคยโดนลบออกไปจากคลังกระทู้ (แม้มันจะเก่าจนตกหน้าไปตั้งนาน กระทู้บางคนที่เป้นข่าว out trend ไปแล้ว ยังมีให้อ่านอยู่เลย) เวลาผมโพสอะไรในลักษณะระบายอารมณ์จากสิ่งที่เจอมา ก็มีคนมาคอยเหมือนปลอบให้ใจเย็นๆ โลกนี้ยังมีอะไรดีๆอีกเยอะ (ไม่ใช่มาต่อว่า แต่แน่นอน ต้องมีการ censor บางคำออกไปบ้างก่อนผมจะโพส) จนตอนนี้ผมมีคนมาคอยติดตามประจำ คอยอ่านคอยโพส (แบบเฮฮา) ผมเอา LEGO ไปโพสโชว์ที่นั่น ยังมีคนตามมาออกความเห็นในเชิงบวกอยู่เยอะมาก เรียกว่า ถ้าเปรียบเว็บฯนั้นเป็นรถยนต์สักยี่ห้อ ต้องเป็น Mercedes-Benz ไม่ก็ BMW หรือ Lexus ครับ

lj;oใครที่ไม่อยากเห็นกระทู้ผมอีกหล่ะก็ ยินดีด้วยครับ หลังจากวันที่ 1 พค เป็นต้นไปนั้น หน่วยงานของรัฐเรียกตัวผมแล้ว (ตามความสมัครใจของผมเอง และเป็นสิ่งที่ชายไทยทุกคนต้องทำ) อย่าว่าแต่อินเตอร์เน็ทเลย โทรศัพท์มือถือก็คงไม่ได้แตะ เป้นเวลาอย่างน้อย 2 เดือน หลังจากนั้น ก็อาจจะได้แตะบ้าง แต่ก็ทำประจำแบบที่ผ่านมาไม่ได้ เป้นเวลาอย่างน้อยอีก 4 เดือน แต่ในช่วง 6 เดือนนั้น ก็มีเงินเดือนให้ผมด้วย แม้จะไม่สูงเท่าพวกนักกฎหมาย แต่การไปใช้ชีวิตแบบนั้น ที่แทบจะไม่จำเป็นต้องใช้เงินเลย (ข้าวก็กินข้าวหลวง ที่พักเสื้อผ้าก็หลวงหาให้พร้อม) พอพ้นวาระออกมา ก็คงมีเงินอีกเยอะ พอไปสิงค์โปร์ได้อีกรอบ (ต่อให้หักค่าข้าวค่าเสื้อผ้าไปแล้ว)...หรือไม่ก็ผมก็อาจจะใช้ชีวิตแบบนั้นต่อไปอีกก็ได้ เพราะเห็นว่ารายได้ต่อเดือนนั้น พอหอมปากหอมคอเลยหล่ะ

ก่อนปิดท้าย มีเงิน 20000 บาท ระหว่าง XBOX360 พร้อมอุปกรณ์ครบชุด กับ Death Star จากสิงค์โปร์ เลือก XBOX360 ดีกว่าครับ คุ้มเงินและเอาไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้มากมายเลยด้วย (แต่ถ้าจะเอา 20000 บาทไปซื้อ LEGO CITY ทุกชุดที่ยังไม่มี อันนี้คุ้มกว่า)
---------------------------------------------------------

นึกถึงบรรยากาศเก่าๆเมื่อตอนเดือนสิงหาคมปีที่แล้วเลยนะเนี่ นายนิกขาประจำก้มาร่วมแจมด้วย (นายเป็ด นายแบงค์ น้องเบน พักผ่อน) แต่หลังจากผมไปเป็นทหาร เจ้าพวกนี้คงไม่ได้เห็นผมไปอีกนานชนิดสมใจอยากแน่ๆ อย่างน้อยก็ 6 เดือนเลยหล่ะ มาเจอกันอีกที อาจจะเป้นตอนที่ผมมี Peugeot 406 (หรืออ่นๆที่ดีพอๆกันหรือดีกว่า)เป้นของตัวเองไปแล้วก็ได้

Singapore ดีกว่าไทย....Think Again

แน่นอนครับ ที่ Singapore เรียนฟรี (ฟรีจริงๆ), เงินเดือนเยอะ, แหล่งช็อปปิ้งเพียบ, สวัสดิการหลายอย่างดี, บ้านเรือนสะอาดสะอ้าน และ LEGO ถูกกว่าไทย แต่...

1.ที่นี่ ประชาชนไม่มีสิทธิ์ในการครอบครอง เครื่องรับสัญญาณดาวเทียม/จานดาวเทียม หรือมีเคเบิ้ลทีวีแบบบ้านเรา เพราะทางรัฐ,บาลเขาควบคุมเอาไว้ แต่ช่องที่รัฐบาลส่งมาให้ดู ก็มี CNN กับ ESPN ด้วยนะ (แต่สำหรับผม มันจะอกแตกตายครับ ให้ดูแค่ไม่กี่ช่องเนี่ยนะ)

2.ถ้าคิดว่ารถยนต์เมืองไทยราคาแพงแล้ว ที่นี่เหรอครับ ภาษีรถยนต์นั้นสูงมโหราฬ เนื่องจากที่นี่ไม่มีโรงงานประกอบรถยนต์ รถยนต์ที่ขายอยู่ไม่ว่าจะยี่ห้อใด จึงต้องนำเข้าสภานเดียว แม้แต่รถยนต์ญี่ปุ่นคันเล็กๆระดับธรรมดาๆ ราคาก็ขึ้นไปถึงเฉียดล้าน จนทะลุหลักล้านบาทไทย และก็เป็นยี่ห้อและรุ่นที่มีวิ่งเกลือนกลาดในบ้านเรานี่แหล่ะ (และนำเข้าจากบ้านเรา) จะมีถูกหน่อยก็พวกรถที่จัดเข้าประเภท weekend car ที่จะใช้ป้ายทะเบียนสีแดง ราคารถยนต์และค่าต่อประกันก็ถูกกว่าระดับปกดติ 30% ขับได้เฉพาะวันหยุดเท่านั้น ถ้ามีเหตุฉุกเฉินจะนำมาขับในวันะรรมดาก็ได้ แล้วค่อยไปจ่ายภาษีเพิ่มเติมทีหลัง เพราะรภทุกคันจะมีหล่องสีดำติดตรงกระจก เป้นเหมือนเครื่องติดตามรถคันนั้น และข้อมูลการต่อทะเบียนกับข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องและจำเป็น

3.และกฎหมายที่นี่ บังคับให้รถยนต์ทุกคันต้องทำประกันภัย ที่สำคัญ ค่าต่อประกันภับรถยนต์ต่อปีนั้น สูงถึง 50,000 บาทเลยหล่ะ

4.ยังไม่พอ การจะมีรถยนต์สักคัน ต้องมีหลักฐานยืนยันเรื่องการมีที่จอดรถเป็นของตัวเองด้วยนะ ไม่ใช่เหมือนบ้านเราที่จะไปจอดข้างทางตรงไหนก็ได้ คนรวยที่นั่นน่ะ มีรถยนต์มากสุดก็แค่ 2 คันเท่านั้น

5.อยากจะเลี้ยงหมาสักตัวงั้นเหรอครับ เห็นว่าขนาดแค่ลูกหมาชิวาว่าตัวเล็กๆ ราคาขึ้นไปแตะยัน 4,000 เหรียญแล้ว และต้องมีบ้านเป็นของตัวเองด้วยนะ แต่ที่นั่นเขาก็สนับสนุนให้เด็กๆเลี้ยงสัตว์เพื่อฝึกความรับผิดชอบ (คำบอกเล่าจาก คุณโจ ไกด์ทัวร์ของ trip นี้ เป็นคนสิงค์โปร์แต่พูดไทยได้ชัดมาก)

6.และที่นี่มีกฎหมายว่า บ้านและอาคารจะต้องทาสีทุกๆ 5 ปี บ้านเก่าเกิน 30 ปี ต้องรื้อทิ้ง

7.ที่นีจะมีที่อยู่อาศัยทั้งของรัฐบาลและเอกชน พวกที่มีรายได้เกินกว่ากำหนด จะมาทำตัวขี้งกด้วยการยังอยู่ในที่อยู่อาศัยของรัฐบาลไม่ได้ ต้องไปหาที่อยู่ของเอกชน ส่วนพวกรายได้ไม่ถึง จะไปทำตัวใฝ่สูงเกินศักดิ์ (และกำลังเงิน) อยู่ในที่อยู่อาศัยแพงๆของเอกชนก็ไม่ได้ แล้วที่อยู่อาศัยที่นี่ ถูกซะทีไหนหล่ะครับ คนส่วนใหญ่ที่อยู่คอนโดฯก็ถือว่าสุดยอดแล้ว ใครมีบ้านนี่ ถือว่าต้องรวยมากๆ

8.ลืมบอกไป ที่นี่น้ำมันเบนซิน ลิตรละ 60 บาท รายได้สูง แต่รายจ่ายก็สูงตาม

9.ถ้าคิดว่าสินค้าอย่างอื่นจะราคาถูกตาม LEGO นั้น ผมมีตัวอย่างเจ๋งๆจะให้ดูครับ

-Memory Stick ขนาด 8 GB เมืองไทยขาย 500 กว่าบาท ที่นี่ราคาพุ่งไป 600 กว่าๆ อาจะแตะ 700 บาท, Memory Stick ขนาด 8GB ของ Sony ราคาขายที่นี่สูงถึง 60 เหรียญสิงค์โปร์
-กล้อง Canon 5D เฉพาะตัว body นั้น ที่นี่ขาย 38,000 บาท ในขณะที่เมืองไทย ราคาแค่ 33,000 บาท
-เครื่องเล่นวีดีโอเกมก็เหมือนกันครับ ราคาไม่ต่างจะเมืองไทย ที่ Singapore เครื่อง Wii ขายในราคา 599 เหรียญสิงค์โปร์ คิดเป็นเงินไทนราวๆ 9,500 กว่าบาท ซึ่งเมืองไทยก็ขายในราคานี้ (แถมแปลงเครื่องเล่นข้ามโซนแล้วด้วย) เครื่องเกมอื่นๆอย่าง PS3, XBOX360 ก็ดูท่าจะพอๆกัน แต่ที่นี่แผนกเกมในห้างฯดูเป็นสัดส่วนและใหญ่ดีครับ
-พวกโทรศัพท์มือถือ ราคาไม่ต่างจากบ้านเรา
-เสื้อผ้าและกระเป๋าแบรนด์เนม มีแค่บางรายการที่ถูกกว่าในบ้านเรา แต่เห้นว่าพวกนาฬิกาข้อมือ มีคนในทัวร์พูกมาว่า แพงกว่าในไทย
-อาหารยิ่งไม่ต่องถามถึงครับ มื้อหนึ่งอย่างถูกสุดก็ราคาทะลุ 3 เหรียญสิงค์โปร์ขึ้นไป..น้ำอัดลมแบบกระป๋องที่นี่น ราคาถูกสุดก็กระป่องละ 1 เหรียญสิงค์โปร์ (แพงกว่าไทยเกือบเท่าตัว) ในร้านสะดวกซื้อ ราคาอาจะแตะ 1.8 หรือ 2 เหรียญสิงค์โปร์ แล้วราคาของน้ำอัดลมกระป๋องแต่ละยี่ห้อ ไม่เท่ากันซะงั้น ทั้งที่ความจุของกระป๋องก็เท่ากัน

แค่เรื่องรถยนต์กับจานดาวเทียม ก้ทำให้ผมคิดอย่างไม่ต้องลังเลเลยว่า อยู่เมืองไทยดีกว่า

หมายเหตุ

-ช่วงที่ผมไปเที่ยวนั้น 1 เหรียญสิงค์โปร์ เท่ากับราวๆ 24 บาทไทย
-ที่นี่ รถยนต์ยี่ห้อ Subaru ค่อนข้างได้รับความนิยม แม้ราคาขายจะแพงขึ้นหิ้งเหมือนรถยนต์ญี่ปุ่นยี่ห้ออื่นๆ
-Lucky Plaza ในย่าน Orchard บรรยากศเหมือน Pantip Plaza และ มาบุญครอง ในบ้านเราเป๊ะ
-Arcade Game ที่ห้างฯ Iluma บนถนน Queens (โรงแรมที่ผมพักอยู่ฝนย่านนี้) มีพื้นที่กว้างมาก 1 ใน 3 ของชั้นนั้นเต็มไปด้วยตู้เกมหลากแบบ ใหญ่โตโอ่อ่า สะอาดสะอ้าน คนรัก Arcade Game ต้องชอบแน่ๆ

ของที่ระลึกที่ผมได้กลับมา มี LEGO CITY จำนวน 3 ได้แก่ mini car, repair truck และ passenger plane 2 กล่องแรก ซื้อจากหางฯแถว Malay Street ซึ่งเดินข้ามทางเชื่อมต่อจาก Iluma ไปยังถนนอีกฟากหนึ่ง กล่องสุดท้ายไปสอยที่ Toy R'Us ในห้างฯ Paragon บนถนน Orchard
(69.99 เหรียญ ไม่ซื้อ..ก็บ้าแล้ว)

ไว้พ่อผมกลับจากอบรมการถ่ายภาพที่จังหวัดอยุธยาเมื่อไหร่ จะเอาภาพจตอเที่ยวมาให้ดูกัน เพราะภาพถ่ายตลอดการท่องเที่ยวทั้งหมดอยู่ในกล้อง Canon 450D และมือถือของพ่อผมซึ่งพ่อผมเอาไปด้วย

คุ้มค่าจริงๆ กับการไปเที่ยวครั้งนี้ เสียดาย ในโปรแกรมทัวร์ ไม่มี Singapore Flyer ชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในโลก

แถมส่งท้าย update ราคา LEGO CITY ที่สิงค์โปร์ (SGD)

8398 (BBQ Stand) :6.90 (165.60 บาท)
7942 (4WD Fire Pick-Up Truck) :20.50 (492 บาท)
3178 (Sea Plane) :19.90 (477.6 บาท)
7637 (Farm) :152.90 (3669.6 บาท)
เพลทถนน :25.90 (621.6 บาท)
8401 (Sport Car) : 16.90 (405.6 บาท)
7744 (Police Headquarter) :199.90 (4797.6 บาท)
3180 (Tank Truck) : 39.90 (957.6 บาท)
7743 (Police Commander) :89.90 (2157.6 บาท)
7741 (Police Helicopter) :29.90 (717.6)
3182 (Airport) :189.90 (4557.6 บาท)
Tow Truck : 24.90 (597.6 บาท)

ดูเหมือนว่างานนี้ ใครบางคนใน Thaibrickclub ควรถอนคำพูดบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องราคา LEGO ในไทยได้แล้วหล่ะ

วันพุธที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2553

เคเบิ้ลทีวี และ ทีวีผ่านดาวเทียม คือสิ่งที่วิเศษที่สุดของมวลมนุษย์

3 ปี ที่ครอบครับผมได้นำสิ่งที่เรียกว่า True Viisions เข้ามาในบ้าน และมันก็ไม่เคยให้ผมและครอบครัวต้องผิดดหวัง มีสารคดีเยี่มๆให้ดู หนังแบบรรยายไทย ฟุตบอลถ่ายทอดสดตั้งหลายคู่ รายการโชว์จากต่างประเทศหลายรายการที่มีสาระ ตอนเริ่มต้น เราใช้แค่ Knowledge จนเมื่อราวๆมีนาคม ปี 2009 พ่อผมก็ได้ไปเปลี่ยนเป็น Gold และขยายจุดรับชมเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งจุด จนตอนนี้ บ้านผมมีจุดรับชม 3 จุด และไม่เคยคิดที่จะไปยกเลิกการเป็นสมาชิกเลย

ก่อนหนานี้ครอบครัวก็ดูเคเบิ้ลทีวี ที่บริการโดยผู้ให้บริการเจ้าหนึ่งในจังหวัดที่ผมอยู่ ซึ่งก็ทำให้ผมพอใจได้ในระดับหนึ่ง แม้จะไม่แจ่มเท่า True Visions แต่ก็ดีกว่า free tv

อย่างน้อย การมีเคเบิ้ลทีวี หรือ โทรทัศน์ผ่านดาวเทียมอย่าง True Visions ก็ยังดี กว่าการดู free tv ที่มีแต่
-ข่าวจากผู้ประกาศข่าว ที่แทบจะไม่มีความเป็นกลาง แสดงอารมณืด้วยอคติส่วนตัว
-SMS ความคิดเห็นบ้าบอคอแตก ดูจากถ้อยคำที่ใช้แล้ว ไม่น่าเชื่อว่า นี่หรือคนมีการศึกษาเขาทำกัน
-ละครน้ำเน่าห่วยๆ
-และอีกสารพัดสิ่งที่ผมสุดที่จะทนกับมัน

free tv ห่วยแตก พอๆกับคนหลายคนที่ผมต้องคอยทนด้วยตอนเรียนอยู่ตั้งแต่ชั้นประถทยันมหาวิทยาลัย พอๆกับคนหัวโบราณบางคนที่ผมเคยยกมือไหว้ และอีกหลายคนที่เคยเข้ามาในชีวิตผมแบบ กวนteen

สวสัดี เคเบิ้ลทีวี แล โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม หนึ่งในสิ่งที่ยอดเยี่ยมของมวลมนุษย์สร้างสรรมันขึ้นมา ความบัเทิงชั้นเยี่ยมส่งตรงถึงห้องนอนคุณตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อเครียดกับอะไรก็ตาม รายการทีวีจากเครือข่ายผู้ให้บริการเหล่านี้นี่แหล่ะ ที่ทำให้ผมมีความสุขได้

สารคดีเยี่ยมๆ จาก History, National Geographic และช่อง True Explorer 3 (พร้อมพากย์ไทยให้ด้วย)
หนังบรรยายไทยแจ่มจาก HBO, cinemax, Star Moive (ที่ไม่มีทำเบลอในบางจุด ลาก่อนเซ็นเซอร์ เสียงพากย์ไทยแบบงี่เง่าและดูถูกภูมิปัญญาคนดู)
การตูนดีๆจากช่อง Spark และ Cartoon Network
และรายการโชว์จากต่างประเทศแจ่มๆทาง True X-Zyte

ส่วนพวกคอกีฬาลูกหนัง ลูกสักหลาด และกีฬาอื่นๆก็จุใจกับช่องกีฬาอีกมากมายที่เกินจะพรรณนาได้

ฉันรักเคเบิ้ลทีวี และ ทีวีผ่านดาวเทียม มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ความบันเทิงชั้นเยี่ยมในบ้านคุณ

แต่ก้ยังไม่วาย มีไอ้คนบางจำพวก บอกว่าโทรทัศน์คือสิ่งที่แย่ การมีทีวีหลายร้อยช่องไว้ดูคือสิ่งไร้ประโยชน์ โดยเอาข้ออ้างเรื่องพฤติกรรมของเด็กจากทีวีมาเป็นเหตุผล และอีกสารพัดอย่างที่แสดงออกว่าเป็นพวกต่อต้านสิ่งเหล่านี้ ผมขอจองเวรและขออาฆาตแค้นพวกนี้ทุกคน แบบที่หลายๆคนในที่นี้มีต่อพวกนำจับลิขสิทะนั่นแหล่ะครับ

รวมถึงพวกที่ออกมาพูดแบบนี้ต่อวีดีโอเกม ผมก็ขอจงเกลียดจงชังด้วยเช่นกัน คนพวกนี้ก็พอๆกับ free tv นั่นแหล่ะ (S*CK)

ขอลั่นวาจาไว้เลยว่า ถ้าผมมีลูกมีหลาน ผมยินดีที่จะให้พวกเขารับความบันเทิงจากเคเบิ้ลทีวีและทีวีผ่านดาวเทียม โดยไม่สนคำพูดของพวกสมาคมผู้ปกครองหรือใครกับหน่วยงานอะไรที่ออกมาพูดต่อต้านพวกนั้นเลย (และโลกความเป้นจริง มนก็ไม่ได้ต่างกันกับในทีวีหรอก)

ใช้ชีวิตอยุ่กับการดูทีวีผ่านดาวเทียม ดีกว่าต้องไปทนอยู่กับพวกงี่เง่า กวนteen หัวโบราณ แบบที่ผมเจอมา

ได้ระบายซะที เฮ้อ

วันศุกร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2553

สุดยอดกลโกงแห่งยุคดิจิตอล (สาระความรู้จากรายการ The Real Hustle ช่อง True X-Zyte)

1. ATM ปลอม

ใครๆอาจเคยได้ยินเรื่องพวกมิจฉาชีพแอบเอาอุปกรณ์แปลกๆไปติดตั้งไว้ตามตู้ ATM เพื่อขโมยข้อมูลบัตรของเหยื่อที่มาใช้บริการ แต่ครั้งนี้มาเหนือเมฆแบบสุดๆครับ ปลอมมันทั้ง ตู้ นั่นแหล่ะ

ด้วยการทำตู้ ATM ปลอมขึ้นมาเลย ทำสีสันเหมือนตู้ ATM แท้ๆทุกประการ ข้างในมีกลไกแบบตู้ ATM จริงๆ ปุ่มกดและจอภาพด้านนอกก็เช่นกัน โดยมิจฉาชีพจะนำตู้นี้ไปตั้งไว้ในย่านที่มีคนผ่านไปมาบ่อยๆ ตอนขนไปแน่นอนก็ดูเหมือนเป็นคนของธนาคารมาทำการติดตั้ง ในนั้นจะมีคนแอบซ่อนอยู่ พร้อมด้วย laptop หนึ่งเครื่องพิมพ์ตอบโต้กับเหยื่อที่มาหลงใช้บิรการ พร้อมทั้งเครื่องอ่านรหัสบัตรของเหยื่อ และมีกล้องเล็กๆซ่อนไว้จับภาพที่แป้นกดด้วย รอบๆตู้จพมีพรรคพวกคอยดุลาดเลากับส่งน้ำและอาหารให้พรรพวกในตู้ เมื่อเหยื่อมาใช้บริการ หลังจากสอดบัตรเข้าไปแล้วกดรหัส เครื่องก็จะบอกว่าไม่สามารถทำรายการได้ เหยื่อจากไป แต่มิจฉาชีพได้ข้อมูลในบัตรไปมูลค่าหลายหมื่นปอนด์ ในเวลาแค่ 2 ชั่วโมง กับเหยื่อ 25 ราย

2. Wi-Fi ปลอม

ตามโรงแรมใหญ่ๆในต่างประเทศ (ไม่รู้ในไทยมีหรือเปล่า) จะมีบริการ Wi-Fi แบบที่ผู้ใช้ต้องจ่ายเงินโดยจ่ายผ่านบัตรเครดิต ดดยกรอกรหัสและทำกระบวนการต่างๆผ่านหน้าจอ latop ของตัวเอง และวิธีนี้ก็เปิดช่องโหว่ให้มิจฉาชีพด้วยการตั้งเครือข่าย Wi-Fi ปลอมบริเวณนนั้น ตัวมิจฉาชีพที่มาพร้อมกับ laptop ก็ดูกลมกลืนเหมือนคนอื่นใน lobby ใน laptop นั้นก็จะปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ออกมา บรรดา laptop ของแขกทที่มาใช้เครือข่ายแถวนั้น ก้จะจับสัญญาณที่แรงและใกล้ที่สุด ซึ่งก็คือจาก latop ของมิจฉาชีพ และหลงคิดว่านั่นคือเครือข่ายที่ไว้ใจได้ซึ่งบริการโดยโรงแรม เมื่อเหยื่อตัดสินใจ log-in เข้าใช้โดยจ่ายเงินผ่านรหัสบัตรเครดิต ข้อมูลบัตรเครดิตของเหยื่อก็ถูกขโมยไปเรียบร้อยแล้ว

3. สมัครงานปลอมๆ

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคลของกลุ่มมิจฉาชีพที่ดูแนบเนียนอีกวิธีหนึ่ง โดยการเปิดบริษัทลักษณะคล้ายเป็นนายหน้าจัดหางาน โดยเช่าพื้นที่ในตึกสำนักงานสักแห่ง แล้วเมื่อมีคนหลงเข้ามาตามประกาศสมัครงาน ก็จะพบกับกลุ่มมิจฉาชีพที่แต่งตัวดูน่าเชื่อถือ ลักษณะภายในตัวสำนักงานที่ดูดี โดยเหยื่อจะถูกให้กรอกข้อมูลส่วนตัวในคอมพิวเตอร์ที่เตรียมไว้ให้ในอีกห้องหนึ่ง ดดยพวกมิจฉาชีพก็จะอยู่อีกห้องเพื่อคอยดุข้อมูลที่เหยื่อกรอกผ่านทางคอมพิวเตอร์ของตนที่เชื่อมต่อกันไว้อยู่ ข้อมูลที่กรอกไปนั้นมีแม้กระทั่งเลขที่บัญชีธนาคาร รหัสประกันสังคม และอื่นๆอีกมาก

4. เคาเตอร์คิดเงินปลอม
อีกกลโกงที่สุดเสี่ยงและใจกล้ามากๆถึงจะทำได้ โดยมักจะเกิดในห้างฯใหญ่ๆ ตามช่วงเทศกาลที่มีการจับจ่ายอย่างวุ่นวาย (เช่น คริสมาสต์ วันขอบคุณพระเจ้า) ซึ่งมักจะมีเรื่องพนักงานดุแลไม่ทั่วถึง ก็เลยเปิดช่องโหว่ให้เกิดกลโกงนี้ขึ้นจากเหล่ามิจฉาชีพ โดยพวกเคาจะเลือกสักมุมในห้างฯที่ไม่มีพนักงานหรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาดูแล (เพราะมัวแต่ไปอยู่ในจุดอื่น อันเป็นปัญหาในช่วงเทศกาล ห้างฯในมืองไทยก็เป็นเหมือนกัน พอช่วงเทศกาลที่มีการซื้อของเยอะๆ พนักงานก็วุ่นวายและดูแลไม่ทั่วถึง) มิจฉาชีพกลุ่มนี้จะมาพร้อมกับกระเป๋าใบใหญ่ ที่ข้างในมี เครื่องคิดเงินแบบที่ทางห้างฯใช้ จัดการตั้งเครื่องบนเคาเตอร์สักแห่ง และแน่อน มันพร้อมทำการหลอกดูดเงินจากเหยื่อแล้ว ด้วยความวุ่นวายช่วงหน้าเทศกาล เหยื่อก็เข้ามาใช้บริการโดยไม่รู้ตัว มิจฉาชีพก็ได้เงินไปฟรีๆอื้อซ่า ระหว่างนี้ก็จะมีพรรคพวกคอยดูลาดเลา เหยื่อรายไหนที่ใช้วิจ่ายด้วยบัตรเงินสดหรือบัตรเครดิตนั้น ก้แน่นอนว่าถูกขโมบข้อมูลในบัตรไปแล้ว (มิจฉาชีพก็จะบอกว่าเครื่องมีปัญหาหลังทำการรูดบัตรกับตัวเครื่องคิดเงิน) เหยื่อที่หิ้วของออกไปก้เสี่ยงโดนจับเพราะคิดว่าขโมยในห้างฯของได้ เพราะมันไม่ใช่การจ่ายเงินจริงๆ

กลโกงของมิจฉาชีพตามห้างฯช่วงเทศกาล ยังมีอีกรูปแบบคือ บริการห่อของฟรี โดยทำเป็นสุ้มเล็กๆที่ลูกค้าไม่เห็นตอนห่อของ แน่นอนว่าของข้างในก็ถูกสับเปลี่ยน กว่าเหยื่อจะรู้ตัวก็สายเสียแล้ว

5. คิดสักนิด ก่อนทิ้งเอกสารบางชิ้น

เพราะมันอาจมีข้อมูลสำคัญของคุณอยู่ในนั้นที่คุณำม่คิดว่าพวกมิจฉาชีพจะเอาไปใช้ทำอะไรได้ พวกใบเสร็จต่างๆด้วย ถ้าคุณทิ้งโดยไม่ทำลายมันอย่างดี พวกมิจฉาชีพก้จะไปคุ้ยมันจากถังขยะได้ และข้อมูลสำคัญพวกนี้ วพกมิจฉาชีพสามารถนำไปใช้แอบอ้างเพื่อทำบัตรเครดิต เช่าซื้อรถยนต์ และอื่นๆได้สบาย

ใครเคยดูรายการที่ผมดูก็อาจจะนึกออก รวมถึงกลโกงเรื่องอื่นๆที่สุดทึ่งและแนบเนียน มันอาจะเป็นเรื่องของเมืองนอกเมืองนาเขา แต่การต้มตุ๋นหลอกลวงมันมีพรมแดนซะที่ไหนหล่ะครับ

วันอังคารที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2553

สารพัดเรื่อง ตอแหล ที่มากับ forward mail

ถ้าได้รับ forward mail เกี่ยวกับเรื่องต่อไปนี้ มันเป็นเรื่อง "ตอแหล" ครับ

1. เมื่อคุณโดนจี้ที่ตู้เอทีเอ็ม โดยบังคับให้กดเงิน ให้กดรหัสเอทีเอ็มย้อนหลัง แล้วกด ตกลง ระบบจะทกการแจ้งธนาคารว่าลูกค้ามีปัญหาที่ตู้นั้น และระบบจะทำการเรียกตำรวจโดยอัตโนมัติให้มายังที่เกิดเหตุในทันที

อีก3เรื่อง ตอแหล ที่เกี่ยวกับมือถือ

2. ถ้ารถคุณใช้กุญแจรีโมต หรือมีกันขโมยแบบรีโมต แล้วเดิดลืมกุญแจหรือตัวรีโมตไว้ในรถ หรือทำมันหาย ให้ใช้มือิถือโทรไปหาคนที่บ้านที่เก็บรีโมตสำรองไว้ ให้คนๆนั้นนำรีโมตมาจ่อที่หูโทรศัพท์ และเราก็นำมือถือของเราจ่อที่ข้างประตูหรือใกล้จุดรับสัญญาณรีโมต แล้วให้ทางนั้นกดรีโมตเพื่อเปิดรถ สัญญาณจากรีโมตจะส่งผ่านมือถือมาแล้วเปิดประตูรถได้

3.เมื่อแบ็ตเตอรี่มือถือคุณหมด ให้กด *3370# แล้วโทรออก เครื่องจะเรียกพลังสำรองออกมาใช้ในกรณีที่คุณต้องการโทรฉุกเฉิน

4.หลังเหตุระเบิดที่ลอนดอน ปี2005 คุณสามารถใช้มือถือของคุณโทรไปยังหมายเลขของศูนย์ฉุกเฉิน 112 ได้จากทุกแห่งทั่วโลก แม้ตัวเรื่องจะอยู่นอกพื้นที่บริการก็ตาม เพราะหมายเลขฉุกเฉินนี้ บริการเฉพาะในเขตยุโรปเท่านั้นครับ

ได้ดูมาจากรายการ america most want ช่อง true explore 3 ที่พูดถึงเรื่อง ข้อมูลต่างๆผ่านอีเมลที่ดูเหมือนเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ในกรณีฉุกเฉินแต่แท้จริงมันไม่ใช่ และทางรายการก็ได้ทดลองให้เห็นกับตาว่าวิธีการเหล่านั้นไม่จริง ผมเคยเห็นอีเมลเรื่องเปิดรีโมตกันขโมยรถผ่านมือถือมาแล้วเช่นกัน

และมีอกหลายเรื่องที่หลายคนในนี้คงเคยอ่านเคยเจอผ่านเมล ซึงผมได้ดูจากรายการทีวีที่เกี่ยวกับการค้นหาความจริงเพื่อพิสูจน์เรื่องเล่าเหล่านี้ และต่อไปนี้ก็เป็นเรื่องที่หลายคนคงเคยเจอผ่าน forward mail และพิสูจน์มาแล้วว่า ตอแหล เช่นกัน

-แก๊งค์ที่หลอกมอมยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จนสลบแล้วผ่าตัดขโมยไตนักท่องเที่ยคนนั้นไปขายในตลาดมืด และทิ้งให้นอนแช่อ่างอาบน้ำที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งในห้องพักโรงแรม เรื่องนี้ก็ไม่จริง เพราะการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ กร๊ปเลือดของตัวคนรับและเจ้าของจะต้องตรงกันและมีรายละเอียดปลีกย่อยทางการแพทย์พอสมควร จะอยู่ๆก็เอาไตอีกคนมาใส่ให้อีกคนเหมือนเอา RAM จากคอมฯอีกตัวไปใส่คอมอีกตัวไม่ได้ และเรื่องเล่านี้ก็มีการปรับเปลี่ยนหลายเวอร์ชั่น บางทีก็เริ่มว่า ผู้ชายไปหิ้วอีตัวจากข้างถนนแล้วพาเข้าโรงแรม และเจอเรื่องแบบเดียวกัน

-คนที่แอบอยู่ใต้ท้องรถแล้วคอยเชือดข้อเท้าของเหยื่อเพื่อฆ่าชิงทรัพย์ หรือฆ่าแล้วเอาอวัยวะไปขายในตลาดมืด รวมถึงเรื่อง ฆาตรกรหลังเบาะรถของผู้หญิง ที่ปรับเปลี่ยนหลายเวอร์ชั่น บ้างก็บอกว่า ผุ้หญิงคนหนึ่งขับรถไปเติมน้ำมัน แต่สักพักอยู่ๆพนักงานปั๊มก็มาเรียกให้ลงจากรถแล้วบอกว่าบัตรเครดิตที่คุณจ่ายมีปัญหา ให้เข้าไปในออฟฟิศเพื่อคุยโทรศัพท์กับบริษัทบัตรเครดิต พอลงจากรถแล้สวเข้าไป พนักงานปั๊มก็คว้าตัวผุ้หญิงแล้วชี้ให้ดูที่เบาะหลังรถ พบว่ามีคนแปลกหน้านั่งอยู่ ผู้หญิงคนนั้นตกใจมาก คนพวกนั้นเป็นแก๊งค์ที่ฆ่าคนเพื่อเอาอวัยวะไปขายในลาดมืด เรื่องเล่าประเภทแก๊งค์ที่ฆ่าคนเพื่อเอาอวัยวะไปขายนตลาดมืด โดยวิธีการแอบเพื่อจู่โจมเหยื่ออย่างไม่คาดคิดมีเยอะมาก โดยเพาะเรื่องเล่าผ่านทาง forward mail ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นจริง

-หรือเรื่องเล่าประเภท นักกอล์ฟถูกจระเข้ฆ่าแล้วกินหายไปทั้งตัว ในสนามกอล์ฟที่มีบังเกอร์น้ำและมักมีจระเข้อาศัยอยู่บางครั้ง สนามกอล์ฟที่มีบังเกอร์น้ำบางแห่งมีจระเข้จริงๆแถวบังเกอร์นั้น แต่ไม่เคยมีรายงานว่ามีนักกอล์ฟถูกจระเข้กินทั้งตัวหรือทำร้ายจนตายแม้ตแน้อย เรื่องนี้ถูกforwardผ่านเมลมาหลายปีแล้ว

-หรือเรื่อง หญิงแก่ที่พาหมาไปอาบน้ำ แล้วอบแห้งในเตาไมโครเวฟด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการ จนหมาตาย นี่ก็อีกเรื่องโกหกระดับคลาสสิคอีกเรื่องเช่นกันที่ถูกเล่ากันมาตั้งแต่เตาไมโครเวฟเริ่มราคาถูกพอที่คนทั่วไปจะหาซื้อมาใช้กันได้ บางเรื่องก็เปลี่ยนไปเป็นแมว หนูแฮมสเตอร์ก็มี

-กับเรื่อง ฆาตรกรไฟสูง(high-beam killer) ที่มักจะขับรถแล้วดับไฟหน้าตอนกลางคืน แล้วพอใครเปิดไฟสูงเตือน มันจะหักรถกลับมาไล่ตามฆ่าคุณ ด้วยจุดประสงค์ที่เปลี่ยนไปหลายเวอร์ชั่น

ผมเจอforward mailเรื่องประหลาดๆเยอะมาก บางอันดูแล้วถ้ามันเป็นจริงๆ คงเป็นข่าวดังระดับประเทศไปแล้ว บางทีภาพกระกอบที่เป็นไฟล์แนบก็ดูเหมือนใช้ photoshop ทำเอา กับเมลประเภทพบแมลงสาบในแก้วน้ำโรงหนังชื่อดัง ผลิตภัณฑ์พวกของใช้ใกล้ตัวที่มีปัญหารุนแรง หรือเมลประจานร้านอาหารหรือร้านค้าที่บริการด้วยคำพูดและกริยาแบบนักเลง บางอันก็ได้แต่อ่านแล้วถามว่า ทำไมมันไม่เป็นข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ และบางทีก็อาจจะเป็นฝีมือของพนักงานระดับลูกกระจ๊อกของร้านค้าหรือบริษัทคู๋แข่ง หรือเรื่องรถมีปัญหาก็อาจจะมาจากคนที่เคยถูกยึดรถไปเพราะไม่มีเงินผอน แล้วมาทำforward mailว่ารถนั้นมีปัญหานู่นนี่ด้วยควมแค้น นี่ยังไม่รวมพวกอีเมลลูกโซ่จากสารพัดพระครูกับโฆษณาหลอกลวงต่างๆอีกนะ ต้องคอยลบกันไม่หวาดไม่ไหวเลยมีมากันแทบทุกวัน

เรื่องคลื่นยักษ์ถล่มสมุทรปราการ และเขื่อนศรีนครินทร์แตก ก็ยอดฮิตไม่แพ้กัน

ไอ้พวกที่มาขอเงินเด็กป่วย นั้นก็ไม่จริง Hotmail จะเก็บตังยิ่งแล้วใหญ่

แล้วเรื่องนี้ก็น่าจะมีเค้าว่า ตอแหล เรื่อง british airways เหยียดผิว โดยให้ผู้หญิงผิวขาวซึ่งย้ายจากชั้นประหยัดไปนั่งชั้น first class เพราะเธอบอกว่าคนข้างๆเป็นคนผิวดำ แอร์โฮสเตทและกัปตันก็อนุญาติเป็นกรณีพิเศษ...มันเป็นอีเมลภาอังกฤษแล้วแปลเป็นไทยอีกที ....หวังว่าคงไม่ใช่อดีตลูกจากของสายการบินนี้ที่ถูกไล่ออกเพราะทำผิดเอง หรือผุ้โดยสารที่ถูกสายการบินนี้ไม่ให้ขึ้นเครื่องเพราะไอ้ตัวผู้โดยสารเองไปก่อเรื่องอาละวาด..หรือเป็นการส่งมาจากพนักงานระดับลูกกระจ๊อกของสายการบินคู่แข่ง...กลัวแต่จะเป็นอย่างงี้เอานะสิครับ เพราะผมดูรายการข่าวสารจากต่างประเทศทางช่อง true x-zyte บ่อยๆอย่างพวก inside edition ถ้าเป็นจริงป่านนี้ดังจนออกรายการนี้หรือข่าวต่างประเทศของไทยไปนานแล้วครับ...

เรื่องดังสุดในรอบปีที่แล้วก็ ภาพสุดท้ายใน cabin โดยสารของ Airfrance เที่ยวบินที่ 447 ที่พิสูจน์แล้วว่ามาจากซีรี่ย์ฝรั่งเรื่อง Lost, แล้วก็เรื่องภัยสุภาพที่ว่า น้ำอัดลมใช้ล้างห้องน้ำได้ นี่ก็ตอแหลเช่นกัน ลองเอาไปล้างดูสิ พื้นเหนียวแน่ๆ

พวกนี้ว่างมากหรือไงถึงได้เที่ยวชอบปล่อยข่าวพวกนี้ไปทั่วโลกออนไลน์

วันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2553

LEGO CITY ชุดล่าสุดที่ซื้อในรอบ 4 เดือน





เพิ่งซื้อจาก Central Plaza ขอนแก่น (ในส่วนที่เป็น Robinson)

ในราคา 160 บาท จากปกติ 195 บาท

เห็นว่าเริ่มเข้าขั้นหายากแล้วชุดนี้