วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ยังไม่หมดกับ 2010 LEGO CITY (หมดตูดแน่ๆเรา)











กธเอาให้ฉันหมดตูดในเดือนเดียวเลยหรือเนี่ย แจ่มๆทั้งนั้น

LEGO CITY ล่าสุดที่เพิ่งซื้อ










ที่ลาสุดจริงๆก็มี รถบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ นั่นแหล่ะ อื่นๆซื้อ,ต่อสร็จและถ่ายรูปนานหลายอาทิตย์แล้ว แต่ตอนนั้นขี้เกียจโพส เพิ่งมารวบยอดเอาตอนนี้ แต่ปีหน้า...หมดเงินเยอะแน่ๆ City มีแต่เจ๋งๆทั้งนั้น

วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เต็มๆตากันอีกครั้ง กับ 2010 LEGO CITY






ยั่วตายั่วใจแบบสุดๆเลยหล่ะ limousine with helicopter กับ รถบรรทุกน้ำมัน นั้น เล็งไว้เลย,passenger plane ก็อยากได้ม, แหม ปีหน้าเตรียมเสียเงินหลักพันบาทกันได้เลยผม

วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2552

Recylce ช่วยโลกได้จริงหรือ-บทความจาก nunsina.exteen

เห็นว่าน่าสนใจ และเป็นเรื่องที่เราอาจจะมองข้ามไป ขออนุญาติเอามาลงทั้งดุ้นเลยนะครับ

-------------------------------------------------------------------------------
รายการหนึ่งทาง True ที่ผมชอบดู คือ Bull Shit : Pen & Teller รายการนี้เป็นนำเสนอ เนื้อหาที่เป็นเรื่องทั่วๆไปที่มีขึ้นบนโลกใบนี้ และเป็นสิ่งที่แพร่หลายไปทั้งโลกด้วย เอามานำเสนอในอีกมุมมองหนึ่งที่ต่างออกไป ไม่ใช่นำเสนอแต่ในแง่ที่ดี (มันเป็นเรื่องปรกติที่พยายามนำเสนอแต่เรื่องดีๆอยู่แล้ว) ความยาว 25 นาที/ตอน โดยประมาณ

จากตรงนี้ไปอ่านอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งนะครับ
อย่างเช่นองค์กรพิทักษ์สัตว์(PETA) ที่พยายามปกป้องสัตว์ที่ถูกทำการทดลองจากมนุษย์ และเป็นที่มีสมาชิกทั่วโลก กว่า 1แสนคนเลย รายการก็จะเสนอในแง่ความจริงในแนวคิดบ้าๆ (งงไหมเนี่ย) อย่างเช่นการช่วยบุกช่วยเหลือสัตว์ต่างๆจากห้องทดลอง ทำลายตึกห้องทดลองต่างๆ เพราะเห็นว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์ แล้วสัตว์ที่ ที่พวกนั้นช่วยเหลือออกมา พวกเขาเอาไปเลี้ยงมั้ย คำตอบก็คือ "ไม่" ก็ส่งให้เทศบาลเอาไปดูแลสัตว์ เทศบาลก็ไม่มีเงินดูแลสัตว์เพราะต้องใช้เงินต่อเดือนจำนวนมากเป็นค่าอาหาร ก็แบกรับค่าใช้จ่ายจากสัตว์ที่พวกนี้โยนมาให้ไม่ไหว เลยต้องฉีดยาให้สัตว์พวกนี้ตายเดือนละเป็นร้อยตัว แล้วเจ้าพวกองค์กรพิทักษ์สัตว์นี้ก็มาประท้วงเทศบาลต่อ หาว่าฆ่าสัตว์ที่ไม่มีความผิดอีก(แล้วทำไมพวกนายไม่เอาเลี้ยงล่ะ)
สำนักงานใหญ่องค์กรพิทักษ์สัตว์นี้ ทั้งที่เป็นองค์กรประเภทNGO(ไม่แสวงหากำไร) แต่เป็นตึกมูลค่า ร้อยล้านดอลล่า ตั้งอยู่ริมน้ำที่สวยงาม(เอ...เอาเงินที่ไหนมาสร้างนะ) และที่ผมฮาสุดๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้หญิงที่มีตำแหน่งใหญ่ที่สุดในองค์กร ก็ป่วยเป็นโรคร้ายอย่างหนึ่งที่ ต้องใช้ยารักษาที่สร้างมาจากห้องทดลองที่ค้นคว้าจากห้องทดลองที่ทดลองจากสัตว์ที่พวกเขาพิทักษ์นั่นแหล่ะ แล้วรู้ไหมว่า พอมีคนถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้นำคนนี้ก็ตอบออกมาแนวๆว่า "ฉันต้องรักษาชีวิตของฉันเพื่อจะได้มาช่วยสัตว์ที่น่าสงสาร เหล่านั้นไง" ..............
ออกนอกเรื่องไปไกลมาก...... กลับมาๆ เรื่องRecycle ตอนหนึ่งรายการ Bull Shit นี้ก็นำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง Recycle ผมไม่ได้อัดไว้ ไม่ได้ดูซ้ำ และไม่ได้จด เนื้อหาจึงอาจจะไม่ละเอียดนักเรื่องตัวเลข เพราะมาจากการจำในการดูครั้งเดียวเท่านั้น -*-....
ประมาณ ปี1970กว่าๆ USA ได้กำหนด สิ่งต้องทำเป็นวาระแห่งชาติ(จำภาษาอังกฤษไม่ได้) หนึ่งในเรื่องนั้นคือ "Recycle" โดยผู้กำหนดแนวคิดในตอนนั้นชื่อ Jay Winston Potter.......
ของหลักๆที่เรา Recycle มีอะไรมั่ง ก็กระดาษ ขวดพลาสติก กระป๋องอลูมิเนี่ยม ใช่ไหมครับ อาจจะมีมากกว่านี้ แต่นี่คือพวกหลักๆ แต่เชื่อไหมว่าค่าใช้จ่ายในกระบวนการ Recycle กระดาษกับพลาสติก กลับแพงกว่าผลิตใหม่ เกือบ 3เท่าแถมยังได้คุณภาพไม่ดี โดยเฉพาะ พลาสติกที่รีไซเคิลแล้วเอามาทำใหม่ก็เอาทำได้แต่ของคุณภาพไม่ดีของที่ไม่ค่อยมีคนใช้ กระดาษก็เห็นๆกันอยู่ หนังสือพิมพ์นั่นไง หรือหนังสือการ์ตูนรายสัปดาห์ของ Japan เล่มละ 2-300 บาท นั่นไงว่าคุณภาพมันดีขนยาดไหน....... ส่วนกระป๋องน้ำต่างๆที่สามารถเอามา Recycle ได้นั้น ค่าใช้จ่ายในการ Recycle ถูกกว่าผลิตใหม่ราวๆ40%เท่านั้น
เรามาลองนึกดูถึงข้อดีที่เราได้จากการ Recycle กันบ้าง

Good Enviroment - คนเรามักคิดว่า การ Recycle ดีต่อสิ่งแวดล้อม ขยะไม่ไปทำลายสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ แต่จริงๆแล้ว การเผาทำลายขยะ ก็เกิดอากาศเสียจากการเผา หรือการ Recycleสิ่งของต่างๆ ก็ต้องแยกของที่ใช้ไม้ได้เช่นพวกหมึกจากกระดาษ สารเคมีต่างๆ ออกจากสิ่งที่นำมาใช้ใหม่ได้ แล้วของที่ไม่ต้องการเหล่านั้นมันหายไปไหนล่ะ ..... เนื่องจากมันเป็นขยะเคมีที่มันอันตรายมากก็ต้องจ้างๆพวกบริษัทที่รับจำกัดพวกนี้ ไปแอบฝังตามที่ต่างๆที่เราไม่มีวันรู้อีกต่างหาก(สิ่งที่เอามาสร้างบ้าน สร้างถนนที่เราอยู่นี้ ก็อาจจะมีการปนเปื้อนสารเหล่านี้อยู่ก็ได้ ตามที่มีสารคดี การฟ้องการทิ้งสารเคมีอันตรายอย่างผิดกฏหมายทั่วๆไป .........
) ถ้าไม่เผาไม่ Recycle จะให้ทำยังไง อ้อขุดหลุมฝัง มันก็ไปเป็นการทำลาย สิ่งแวดล้อมไม่ใช่หรือ แถมยังส่งกลิ่นเหม็น สร้างความเดือดร้อนให้ เรื่องนี้ ผมขอโยงไปหัวข้อ Save Enegy ครับ

Save Enegy - Recycle มันประหยัดพลังงานยังไง เอ๊ะ ถ้าลองคิดดูดีๆ ก็จะนึกได้ว่ามัน....ต้องใช้ น้ำมันเพิ่มจากรถขนขยะปรกติ ก็ต้องเพิ่มรถขนขยะ Recycle จะกระดาษจะอะไรก็เถอะ จริงไหม..... แถม... ถ้าเผาขยะ ก็ต้องใช้เชื้อเพลิงอีก ส่วนพลังไฟฟ้าที่โรงงาน Recycleตามกระบวนการต่างๆใช้ 1เดือนนั้น ก็เพียงพอที่จะใช้ตามเมืองใหญ่ๆ ได้ตั้ง 3เดือน .....อื้ม ....... การ Recycle เป็นการประหยัดพลังงาน จริงๆ
แต่เดี๋ยวก่อนเรื่องประหยัดพลังงานยังไม่จบ เรื่องที่สืบเนื่องมาจาก "ดีต่อสิ่งแวดล้อม" การกำจัดขยะที่คนทำมาช้านานนั่นคือการขุดหลุมฝังขยะ การฝังขยะปัญหาที่ตามมาคือของเน่าหม็น เกิดก๊าซมีเทนส่งผลให้คนที่อยู่รอบๆที่ฝังทิ้งขยะ เดือดร้อนใช้ไหมครับ แต่ว่าที่ USA เขามีการทำเป็นระบบ ขุดหลุมฝัง ห่างไกลแหล่งน้ำ ทำที่เฉพาะ(ขี้เกียจอธิบาย เพราะไม่รู้ละเอียด) ส่วนก๊าซ มีเทนที่ได้จากขยะ เขาเอาไปผลิตพลังงานไฟฟ้า .... โดยในรายการอ้างว่า ..... ก๊าซมีเทนจากขยะ ปริมาณ1ปี สามารถนำไปผลิตไฟฟ้าได้ตั้ง 30ปี!!! คุณเชื่อหรือเปล่าล่ะ(ถ้าให้นึกภาพง่ายๆ ใครเคยเล่น Sim City นึกภาพโรงงานไฟฟ้าจากขยะไว้ แต่ในเกมมันเป็นการสร้างไฟฟ้าจากการเผาขยะซึ่งผมไม่ค่อยเข้าใจระบบเหมือนกัน(ใช้พลังงานจล สร้างพลังงานกลไปเกิดพลังงานกลอีกทีมั้ง) มันเลยส่งผลต่อมลภาวะในเกม .... และผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันไอ้โรงงานไฟฟ้าจากก๊าซมีเทนเนี่ยะ ส่งผลต่อมลภาวะ แค่ไหนเหมือนกัน) ส่วนที่ทิ้งขยะที่อ่อนนุช เรามีวิธีจัดการกับมันยังไงอยู่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันใครรู้ช่วยบอกที...... ท่านผู้ว่ากทม .....

Save Tree - การดาษผลิตจากเยื่อไม้ เยื่อไม้ได้จากไม้ คนจึงเชื่อกันว่าถ้า Recycleกระดาษที่ใช้แล้วเช่นหนังสือพิมพ์ จะเป็นการช่วยรักษา ต้นไม้ ทำให้มีอากาศหายใจ...... จริงๆแล้ว เยื่อไม้จากต้นไม้ที่นำใช้ในการผลิตกระดาษนั้น ได้มาจากต้นไม้ที่เขาปลูกมาเพื่อผลิตกระดาษโดยเฉพาะทำกันเป็น Farm ต้นไม้เพราะได้คุณภาพดีกว่าจะไปเอาเยื่อต้นไม้มั่วๆมาใช้(อ้าว..) ตัวอย่างบ้านเราก็โครงการ ปลูกต้นกระดาษAA ตามคันนาบ้านเรานั่นไง..... ส่วนต้นไม้ที่หายไปจากโลกปีละหลายๆล้านต้นมาจาก คนที่ตัดเอาไปทำเฟอร์นิเจอร์ หรือถางป่าทำพืชไร่ หรือสร้างที่อยู่มากกว่า.... เพราะฉนั้น..... การ Recycleกระดาษไม่ช่วย อนุรักษ์ต้นไม้แน่นอน ....

Save Money - การใช้ของ Recycle ไม่ได้ช่วยประหยัดเงินแน่นอนอย่าลืมว่า ของที่ Recycle มักจะคุณภาพแย่กว่า และมักจะแพงกว่า และค่าจ้างที่รัฐจ่ายให้พนักงานเก็บขยะที่มาขนขยะเราไป Recycle รัฐเอาเงินมาจากไหนก็เงินภาษี จากเราๆทั้งนั้น ....... แล้วมันประหยัดเงินเราตรงไหนเนี่ยะ ส่วนเรื่องบริษัทที่ผลิตวัตถุดิบ ก่อนจะนำไปแปรรูปก็ต้องจ่ายแพงกว่าปรกติ อีก ...... แล้วมัน ประหยัดเงินตรงไหนเนี่ยะ

Create A Job - เกิดการสร้างงาน จำนวนมาก แต่คนที่ได้รับผลประโยชน์ไม่ใช่เราๆท่านๆที่สร้างขยะกันอยู่ทุกวันแน่ๆ แต่เราสร้างงาน ให้คนที่ทำหน้าที่เก็บขยะ ขับรถขนขยะ แยกขยะ และคนที่หน้าที่ในโรงงาน Recycle มีงานและมีรายได้ เพราะฉนั้นหัวข้อนี้ผมว่ามันน่าจะเป็นเรื่องดี ........ แต่เคยได้ยินกันมั่งไหมว่า คนเก็บกวาดขยะตามท้องถนน รายได้วันละเป็น พัน ฿_฿......

ฮ่า ฮ่า ฮ่า คงสังเกตุได้ไม่ยากว่า ข้อมูลในแต่ละหัวข้อมันน้อยลงเรื่อยๆ จริงๆแล้วในรายการ ได้เสนอข้อมูลที่เราเข้าใจกันผิดๆเกี่ยวกับ Recycle ไว้ 7-8 ข้อ แต่ผมดันนึก ออก 5 เองแฮะ อีกอย่างเพราะรายการ โยงเรื่องกันไปมา อย่างงงนิดๆ คือ นำเสนอข้อมูลมาเยอะๆ แล้วแยกเป็นหัวข้อทีหลังแถมยังไม่เป็นระเบียบอีกต่างหาก ซึ่งต่างจากปรกติที่ควรจะเป็นที่ นำเสนอหัวข้อมาก่อนแล้วอธิบายเนื้อหาในข้อมูลนั้น .......... นี่แหล่ะ Bull Shit : Penn & Teller รายการที่นำเสนอข้อมูลสวาระอย่างเพี้ยนๆ.... -__-....... ดังที่กล่าวมาผมเลย ต้องมานั่งประมวลข้อมูลในหัวสมอง แยกประเภทเองอีกต่างหาก...... บวกกับระยะเวลาเป็นเดือนมาแล้วทำให้ข้อมูลลางเลือนไปบ้าง แหะ....แหะ........แหะ....

หลังจากที่ทนอ่านตัวหนังสือเป็นพรืดมาจนถึงตรงนี้ คิดบ้างหรือเปล่าว่า... "ไอ้หมอนี่ต่อต้านเรื่อง Recycle แหงๆ" ผมบอกได้เลยว่า ผมไม่ได้ต่อต้านการ Recycleอย่างยิ่ง หรือ เห็นด้วยอย่างสุดกู่ ...... ไม่ว่าจะเรื่องอะไร จะภาวะโลกร้อน จะ น้ำมันแพง ประหยัดไฟฟ้า ถุงฟ้า หรืออะไรผมก็ทำ....เท่าที่พอทำได้เท่านั้นแหล่ะ แค่ปรับมันให้เข้ากับการใช้ชีวิตประจำวันของผมโดยวิถีชีวิตไม่เปลี่ยน ....... ก็เท่านั้น
อย่างรถพลังงานไฟฟ้า ที่ช่วงหลายๆปีหลัง รถยี่ห้อดังๆทั้ง หลายพยายามผลิตกันออกมา ก่อนที่จะเกิดวิกฤต Hamburger เนี่ยะ ผมไม่เห็นว่ามันจะเป็นการประหยัดพลังงานตรงไหน แค่เปลี่ยนจากการใช้น้ำมันไปเป็นพลังงานไฟฟ้าเท่านั้นเอง.... ประหยัดค่าน้ำมันตอนช่วงน้ำมันแพง อาจจะใช่.....แล้วค่าไฟฟ้า จากการชาร์จไฟฟ้าให้รถจากบ้านมันเพิ่มมาในบิลตั้งเท่าไหร่ ผมเคยดูสารคดีทาง Discovery เขาเปรียบเทียบ การค่าใช้จ่ายพลังงานน้ำมันต่อพลังไฟฟ้า ผมจำตัวเลขที่ชัดเจนไม่ได้ แต่สรุปคือถ้าเราใช้รถไฟฟ้า จ่ายค่าไฟฟ้าแพงกว่าจ่ายค่าน้ำมันแน่นอน ด้านความเร็วของรถอย่าไปพูดถึงมันแล้วกัน......... ส่วนเรื่องมันดีกว่าสิ่งแวดล้อมนั้น ......เอ่อ ..... เราผลิตกระแสไฟฟ้ามากจากอะไรมั่ง....... หลักๆใหญ่ๆก็ เขื่อนกันน้ำ โรงงานไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ และ โรงงานไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ(น้ำมัน แก๊ส ถ่านหิน ฯลฯ) นอกจากอันแรก ........ มันดีต่อสิ่งแวดล้อมไหมนี่......

ขอบคุณถ้ายังมีคนทนอ่านมาจนถึงตรงนี้ ข้อมูล 95% นั้นมาจากรายการ Bull Shit : Penn & Teller ซึ่งเป็นรายการของทาง USA ข้อมูลทั้งหมดมาจากการวิจัยของทาง USA ล้วนๆ เพราะฉนั้น อาจจะใช้กับเมืองไทยเราไม่ได้เลยก็ได้ -___________- เขียนมาทำไมตั้งยาว................. นั่นสินะ ....... เอาเป็นว่าอ่านเล่นๆเพลินแล้วกัน (^_^)b(อีก5%มาจากความรู้ทั่วไปในสมองอันกระจ๊อยร๊อย ของผม)
แถมข้อมูลเล็กน้อย .....USA ผลิตขยะ ปีละ 220 ตัน ........ หลุมฝังขยะ กว้าง 35x35ไมล์ ลึกเท่าไหร่จำไม่ได้ แต่เพียงพอจะ ใช้ฝังขยะให้ USA ได้ 1000 ปี ..... เอ่อ...ไม่รวมขยะ อิเล๊คโทรนิคมั้ง .......

-----------------------------------------------------------------------------------

ความเห้นส่วนตัวของผม : ผมเองก็ดูรายการนี้ทางช่อง True X-Zyte เช่นกัน เรื่องนี้ผมไม่ได้ดู แต่ผมค่อนข้างที่จะเห็นด้วยครับ ว่าการ recycle อาจจะไม่ใช่ทางออกที่ดีนักในการจัดการกับขยะทุกประเภท และเผลอๆก่อมลพิษและใช้ค่าใช้จ่ายมากกว่าการผลิตใหม่เสียอีก รวมถึงคุณภาพของวัสดุที่ผลิตจากการ recycle ก็แย่ลงอีก มันเคยเกิดขึ้นแล้วกับรถยนต์ Mercedes-Benz รหัสตัวถัง W-124 (ก็เจ้า E-class โลงจำปานั่นแหล่ะ) ที่มีปัญหาว่าสายไฟของระบบต่างๆไม่ทนเท่าที่ควรเพราะใช้วัสดุrecycle

กับเรื่องที่ผู้เขียนบทความพูดถึงเรื่อง รถยนต์ไฟฟ้า อาจจะไม่ได้ช่วยโลกอย่างที่คิด ผมก้เห้นด้วย และผมก็คิดแบบนี้ก่อนจะมาเจอบทความนี้ซะอีก เพราะโอเค ตัวรถใช้ไฟฟ้าขับเคลื่อน แต่ไฟฟ้าที่ใช้ชาร์จหล่ะ ก็มาจากการเผาถ่านหินหรือเชื้อเพลิงปิโตรเลียมประเภทอื่นอยู่ดี แล้วชิ้นส่วนจำพวก แบ็ตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้า อันเป็นแหล่งพลังงานขับเคลื่อนหลักนั้น มันก็ต้องมีการเสื่อมสภาพ กลายเป็นขยะอันตรายอีก (ต่อให้เป้นแบ็ตเตอรรี่ Li-on ก็เถอะ) ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนมันก็สูงใช่เล่น รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆที่จะตามมาอีก และอีกนานครับ กว่ารถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าแบบเพียวๆจะมีศักยภาพเทียบเท่ารถยนต์ใช้น้ำมันในทุกๆด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถทื่ต้องใช้กำลังอย่างรถบรรทุก

ดูเหมือนว่าบางครั้ง สิ่งที่ดูดีดูเริศและน่าเชื่อถือ เป้นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป้นสิ่งที่ดูเหมือนว่าทำเพราะความหวังดี อาจจะไม่ดีอย่างที่คิดก็ได้ และผมว่าแค่เราไม่ใช้มันอย่างฟุ่มเฟือยจนเกินไป เท่านี้ก็ช่วยดลกได้มากแล้วครับ

วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

LEGO CITY ชุดล่าสุดที่ซื้อมา






ความจริงซื้อมานานแล้วหล่ะ แต่เพิ่งได้ถ่ายรุปเมื่อสักครุ่หลังจากขี้เกียจมานาน ชุด single drum roller (รถบดถนน) ปกติขาย 1900 กว่าบาท g0v]f 30% เหลือ 1300 กว่าบาท แถมยังได้บัตรส่วนลดเงินสดของ The Mall อีก 600 บาท เหลือ 772 บาท ถูกแบบโคตรๆเลย

ที่ได้บัตรลดเงินสดก็เพราะไปสมัคร M-card ของทาง The Mall แล้วพอดีพ่อผมอยากได้เครื่องเสียง Denon ราคา 18000 บาท เลยเอาบัตรนี้มาใช้เป้นส่วนลดตอนซื้อเครื่องเสียง เลยได้ไอ้เจ้าบัตรส่วนลด 600 บาทนั่นมาด้วย ดีจริงๆเลย

วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2552

รายชื่อ LEGO CITY ที่จะออกในปี 2010 จาก brickset



http://www.brickset.com/browse/themes/?year=2010&theme=City

พร้อมด้วยรูปของ helicopter หน่วยดับเพลิงชุดใหม่ ที่ดูไฉไลพอควร แต่ในต่างประเทศก็ยังไม่วางขาย

วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2552

LEGO CITY ชุด 7686 มาซะที ที่ mom2kids


และตามห้างฯทั่วไป เห็นครั้งแรกที่ The Mall สาขานครราชสีมา ส่วนใน mom. เพิ่งเห็นเมื่อสักครู่ แต่คงมาลงในเว็บฯได้สักพักแล้วมั๊ง จากราคาปกติ 1935 บาท ใน mom. ราคาแค่ 1548 บาท

ดูเหมือนหลังๆนี่ ราคาชุด CITY แพงกว่า Singapore ไม่มากเท่าไหร่ ของยั่วตายั่วใจมาอีกแล้ว ไหนจะยังมี ชุด2010 อีก

http://www.mom2kids.com/LG0003611/Lego-City-Helicopter-Transporter/

Mazda 3 ในรูปของ LEGO



โดยคุณ PIKI จากเว็บไซต์ www.thaimazda3.com

ที่นั่นก็มีคนเล่น และ เคยเล่น LEGO หลายคน ผมเองก็ไปร่วมวงแจมตอบกระทู้และเผยแพร่สิ่งที่อยากเผยแพร่กับเขาบ้าง แม้ยังคงมีความรู้สึกตะหงิดๆว่า มีใครใน Thaimazda3 เป็นสมาชิกใน เว็บบอร์ดที่แสนจะยิ่งใหญ่และมีอำนาจ หรือเปล่า

วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ภาพอีกหนึ่งชุดของ 2010 LEGO CITY





พวกนี้ น่าจะของจริงแน่นอน

คำอธิบายเกี่ยวกับราคา LEGO ในประเทศไทย

สืบเนื่องจากมีผู้เล่นเลโก้จำนวนหนึ่งมีความรู้ความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับสินค้าและการตั้งราคา ผมในฐานะหัวหน้าแก๊งส์ Thai Lego User Group ที่พอจะทราบเบื้องหน้าเบื้องหลังของเลโก้ในประเทศไทยมาบ้าง เพราะคลุกคลีมาพอสมควร

คำถาม: ทำไมเลโก้ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาจึงมีราคาถูกกว่าที่อื่นในโลก
คำตอบ: คำตอบนี้เป็นคำตอบของ Mads Nippers ซึ่งเป็น Lego's Corporate ManagementWhy the US has the lowest LEGO prices

I’m sure many LEGO fans across the world have wondered why the US has the lowest LEGO prices while countries in Europe and Asia have significantly higher prices, oftentimes twice that of the MSRP (Manufacturer’s Suggested Retail Price) for a LEGO set in the US. There are even countries where LEGO costs up to three or four times the prices in the US. Here is the answer from Mads Nipper of LEGO’s Corporate Management.Our selling costs in Europe and Asia are higher than in the US because of the size of US market and retailers (economies of scale). Furthermore, the US market is by far the most price competitive in the world. These factors combined mean that we have for years priced our products higher in eg Europe than the US. In recent years, the difference has been increased due to the weakening US dollar - but we have consciously decided not to let this (hopefully short term) weakening of the dollar hurt the US consumer. And in order to stay profitable as a company, we cannot decrease our European prices - especially seen in the light of increasing cost pressure on oil, labor etc. Finally, final pricing in the market place is obviously determined by retailers, which is something we cannot and will not influence.

ิBy Nannan lego Ambassadors

ที่มา http://www.brothers-brick.com/2008/08/01/why-the-us-has-the-lowest-lego-prices/

ซึ่ง สรุปได้ความว่าประเทศสหรัฐเป็นประเทศที่มี Market Share หรือ มีผู้เล่นเลโก้เยอะมาก ทำให้สามารถมีกำลังซื้อและทำให้ราคาของเลโก้ถูกกว่าที่ใดในโลก (ได้มาจากคุณจอมส่งข้อมูลมาให้)
ผมขอเสริมนิดหนึ่งเกี่ยวกับการสั่งซื้อ สินค้าเลโก้ใน Lego.com เนื่องจากเคยไปเรียนที่อเมริกามาแล้วก็เคยสั่งสินค้าเลโก้จาก Lego.com ด้วย โดยปกติการสั่งซื้อสินค้าจาก Lego.com จะไม่ส่งมาประเทศไทยโดยตรง ผู้สั่งต้องมีที่อยู่ในอเมริกาหรือบางประเทศที่กำหนดเท่านั้น ต่อมาการซื้อ Lego.com จะมีภาษีการค้าตามแต่ละรัฐจะกำหนด (ผมเคยอยู่ที่ Texas ประมาณ 8.5%) (ถ้าจำไม่ผิดมีอยู่รัฐหนึ่งจะไม่เสียภาษีดังกล่าว) นอกจากนี้แล้วยังต้องเสียค่าส่ง (Shipping Cost) ซึ่งจะขึ้นอยู่กับขนาดกล่องของเลโก้ ปกติจะใส่กล่องใหญ่มากๆ มาให้ (คงกลัวกล่องบุบ) ซึ่งตรงนี้ Lego.com มักจะมี Deal บางอย่างช่วงใกล้ Christmas เช่น สั่งครบ $100 ไม่ต้องเสียค่า Shipping Cost เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ราคาที่เห็นใน Lego.com จึงไม่ใช่ราคาสุทธิ นั่นแค่การส่งภายในอเมริกาเท่านั้น แต่ค่าส่งจากอเมริกามายังประเทศไทยก็ต้องมี ถ้าสั่งมากๆ หรือกล่องใหญ่ๆ ก็จะถูกภาษีนำเข้าเรียกเก็บตอนหลัง ข้อแนะนำถ้าอยากได้ราคาแบบอเมริกาให้ช่วยกันซื้อเลโก้ในประเทศไทยกันเยอะๆ ครับ

คำถามที่ 2 แล้วทำไมเลโก้ในประเทศไทยจึงแพงกว่าเลโก้ของประเทศอื่นๆ เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และมาเลเซีย
คำ ตอบ เป็นเพราะมาตรการด้านภาษีครับ ประเทศไทยคิดว่าของเล่นเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยอย่างหนึ่งมีภาษีทั่วไป 20% ที่มาจาก กรมศุลกากร (คุณจอมหามาให้) ขณะที่ประเทศสิงคโปร์ และฮ่องกง ไม่มีภาษีดังกล่าว เรื่องนี้ต้องบอกท่านนายกให้แก้ไขให้เลโก้ไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือย นอกจากนี้ค่าจัดจำหน่วยที่ต้องแบ่ง% ของกำไรในทางห้างด้วย ซึ่งในส่วนของ lego shop @home จะไม่มีค่าใช่จ่ายอันนี้ (เพราะอยู่บน web)

คำถามที่ 3 แล้วทำไมในเว็บไทย เช่น รักลูกจึงขายได้ถูกกว่าที่ร้านคำตอบ ทั้งๆ ที่เป็นสินค้ามาจากบริษัทดีทแฮล์มเหมือนกัน
แต่ เนื่องจากบุคคลที่ประกอบธุรกิจในเว็บประเทศไทย มีต้นทุนที่ต่ำเมื่อเทียบกับเปิดห้างสรรพสินค้า ทำให้ราคาของเลโก้ในห้างแพงกว่าในเว็บไทยทั้งๆ ที่มาจากบริษัทดีทแฮล์มเหมือนกัน

คำถามที่ 4 ทำไมบริษัทดีทแฮล์มจึงนำเลโก้บางชุดมาขายเท่านั้นคำตอบ
ถ้า เข้าใจไม่ผิดบริษัทดีทแฮล์มทำข้อตกลงกับบริษัทเลโก้ว่าจะขายเลโก้เท่านั้น ไม่รวมถึงสินค้าอื่นๆ เช่นเสื้อผ้า ส่วนเลโก้เองก็ไม่ครบชุดนั้นเป็นเพราะประเทศทุกประเทศที่เป็นคู่ค้ากับเลโก้ จะได้รับ Trade Catalog ซึ่งจะบอกไว้ว่าสินค้าใดสั่งได้หรือไม่ ซึ่งในนั้นมีสินค้าไม่ครบทั้งหมด สินค้า Exclusive เช่น Cafe Corner ไม่ได้อยู่ใน Catalog ดังกล่าว บริษัทดีทแฮล์มต้องใช้กำลังภายในเพื่อที่จะสั่งเข้ามาขายให้ ผมเป็นคนหนึ่งที่เห็น Trade Catalog ผมบอกได้เลยว่าสินค้าที่บริษัทเลโก้ให้ขายมีไม่ครบครับ

คำถามที่ 5 ทำไมจึงไม่มีร้าน Lego Shop เหมือนที่อื่น ประเทศไทยมีปริมาณการซื้อเลโก้ไม่มากนัก บริษัทเลโก้จึงเลือกที่จะไม่ขายสินค้าเอง ส่วน Lego Shop นั้น บริษัทดีทแฮล์มเคยคำตอบ ผลักดันจนเกือบจะได้ตั้งอยู่แล้ว แต่ติดตรงที่บริษัทเลโก้ไม่ต้องการให้ตั้งในห้างเดียวกับที่ Toys R' Us ตั้งอยู่ เพราะกลัวว่าจะไปแย่งลูกค้ากันเอง แล้วในที่สุดก็หาสถานที่ใหม่ไม่ได้ โครงการนี้ก็ต้องพับไปก่อน แต่ชมรม T-LUG จะพยายามผลักดันให้มี Lego shop ในประเทศไทยให้ได้ครับ

ผมขอ เสริมนิดหนึ่งครับประเทศไทย มาเลย์ และอินโดฯ มีบริษัทดีทแฮล์มเป็นตัวแทนในการนำเข้า บริษัทนี้เป็นบริษัทข้ามชาติซึ่งการตั้งราคาสินค้ามีโครงสร้างไว้แล้ว ไม่สามารถตั้งตามใจฉันได้ ผู้ขายย่อมต้องการกำไรสูงสุด แต่ถ้าแพงเกินลูกค้าก็จะไม่ซื้อ หรือไปซื้อที่อื่น ในที่สุดก็จะอยู่ไม่ได้ครับ ดังนั้นบริษัทย่อมเลือกเอากำไรน้อยๆ แต่ปริมาณมากๆ มากกว่า แต่เนื่องจากประเทศไทยมีระบบฐานเงินเดือนที่ต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับเลโก้ จึงทำให้ดูว่าเป็นของเล่นที่มีราคาสูง ข้อจำกัดดังกล่าวทำให้ผู้เล่นเลโก้ส่วนมากอยู่ในระดับสูงถึงกลาง ปริมาณของเลโก้ในประเทศไทยจึงไม่เกิด

หวังว่าคำตอบเหล่านี้คงจะทำให้ หลายๆ คนเกิดความเข้าใจกันมากขึ้น ผมว่าเรามาเล่นเลโก้กันอย่างสนุกดีกว่าครับ ข้อเสนอแนะง่ายๆ ดังนี้ครับ
- ซื้อตอน Sale ซึ่งบางครั้งมีการทบยอดการลดเปอร์เซ็นต์ บางครั้งมีแถมก็เลือกเอาตามความเหมาะสมครับ (ระวังของหมดก่อนแล้วกัน ผมมีเพื่อนหลายคนผิดหวังเพราะรอตอน Sale แล้วของหมดก่อน ต้องยอมรับว่าหลังๆ นี้บริษัทดีทแฮล์มสั่งปริมาณลดลงแต่หลากหลายมากขึ้น)
- ซื้อชุดที่ไม่มีลิขสิทธิ์จะทำให้ได้เลโก้ที่ถูกกว่าเลโก้ที่มีลิขสิทธิ์ เช่น Star Wars ต้องไปเสียให้ Lucas
- ถ้ามีทางซื้อจากต่างประเทศแล้วเช็คแล้วว่าราคาถูก ก็ซื้อไปเลยครับ (ถ้ามีหนทาง ผมสนับสนุน) ต้องระวังขนาดกล่องที่ใหญ่ด้วยครับ
- รู้จักพอประมาณ ยับยั้งชั่งใจ อย่าไปบ้าซื้อตามเพื่อน ต้องดูกำลังทรัพย์ตนเอง
- ซื้อของจริงไม่ไหวก็ไปซื้อของจีนแล้วกันถูกดี แต่ส่วนตัวแล้วบอกได้เลยครับว่าคุณภาพผิดกัน เหมือนขับ Ferrari กับ Toyota ถึงจุดหมายเหมือนกัน แต่คุณจะขับอะไร

ผมเป็นคนหนึ่งที่รักเลโก้ ถ้าเลโก้แพงไปสำหรับคุณ ก็ไปเล่นอย่างอื่นเถอะครับ มีของเล่นมากมายให้เล่น ไม่จำเป็นต้องเป็นเลโก้ก็ได้ แทนที่เราจะมานั่งบ่นกับราคา สู้เรามีคิดว่าจะเอาเลโก้ที่มีอยู่มาสร้างความสุขให้ตนเอง และแสดงให้เห็นว่าแม้เราจะมีอยู่ไม่มาก แต่ด้วยความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการที่มีสามารถนำชิ้นงานออกมาได้ดีไม่แพ้ คนที่มีเป็นแสนเป็นล้านชิ้น

พิจารณ์
Happy Living, Happy Building
** ความคิดทั้งหมดนั้นเป็นความคิดของผมเอง ไม่เกี่ยวข้องกับ T-LUG และอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่สามารถตรวจสอบที่มาที่ไปได้**

http://t-lug.spaces.live.com/default.aspx?sa=471190087

วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2552

2010-Lego City- airport and fire fighter





อื้อหือ airport ใหม่ มีรถบรรทุกน้ำมันด้วย นี่แหล่ะที่รอคอย

แต่ fire station นี่ มันขยัน re-design กันบ่อยจัง

วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2552

2010 LEGO CITY (ถ้านี่ไม่ใช่ MOC หรือ custom order)






ถ้านี่คือภาพจริง ไม่ใช่การ MOC คงจะเยี่ยมมากๆ โดยเฉพาะ รถบรรทุกน้ำมัน ที่น่าจะ re-design ตั้งนานแล้ว
และหวังว่า ราคาจำหน่ายในห้างฯคงจะ "เป็นมิตร" แบบเดียวกับตอนที่ "CITY ชุดเดือน 8" ออกจำหน่าย
ถ้านำชุด โรงพยาบาล กับ ธนาคาร กลับมาอีกหล่ะก็ แจ่มเลยหล่ะ

วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2552

คุณอยู่กับ ชุมชนเสมือนจริงบนโลกอินเตอร์เน็ต มาแล้วกี่แห่ง

10 ปีแล้วที่สิ่งที่เรียกว่า internet เข้ามาในชีวิตผม แต่มีแค่ 5 ปีหลัง ที่ผมอยู่กับสิ่งที่เรียกว่า ชุมชนเสมือนจริง หรือ เว็บบอร์ด ไม่ว่าจะที่นี่ หรือ ที่อื่น ในฐานะแค่ สมาชิกธรรมดา ธรรมดา คนหนึ่ง

และ แทบทุกที่ ผมก็ใช้ username เดิมทั้งนั้น ไม่มีแปรเปลี่ยน และใช้ e-mail เดิมในการสมัครสมาชิก เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน ผมเคยลองมาค้นหาดูเล่นๆว่า ผมไปอยู่ในชุมชนเสมือนจริงนี้มาแล้วกี่แห่ง

เอยะเลยครับ นับโดยรวมแล้วได้ประมาณ 18 เว็บบอร์ด เป็นเว็บบอร์ดของไทย 14 แห่ง และของต่างชาติที่เป็นภาษาอังกฤษ 4 แห่ง

มีแต่เว็บบอร์ดของฝรั่งนี่แหล่ะ ที่ไม่ได้ใช้ชื่อ GOODMAN เช่นที่ www.briansbelly.com

บางที่เพิ่งได้เข้าไป update แก้ไขข้อมูลส่วนตัวใหม่ เพราะหลายที่ข้อมูลสถานะทางอาชีพยังเป็น นักศึกษา อยู่เลย

จำนวนโพสที่อยู่ใน ชุมชนเสมือนจริงเหล่านั้นที่ผมไปอยุ่ ก็ไม่ได้มากมายอะไร น้อยกว่าที่นี่เยอะ

ผมเคยมาลองพิมพ์ e-mail address ลงไปใน google แล้วสั่งค้นหา โอ้โห บานเลยครับ ข้อมูลมีเพียบเลยว่าผมเคยไปอยุ่เว็บบอร์ดไหนมาบ้าง

แต่เว็บบอร์ดที่เป้นที่จดจำในอันดับต้นๆที่หนึ่งที่ผมเคยไปสัมผัส คือ เว็บบอร์ดของรายการ Plsy Crash ช่อง G-Square

ประมาณ 50% ของกระทู้ที่ผมไปตั้งไว้ที่นั่น จะมีบุคคลที่ชื่อ เซียนอ๊อตโตะ มาตอบกระทู้ผมอย่างเป้นกันเองพอควรในสิ่งที่ผมอยากรู้และนำเสนอ อายุเขาก็น่าจะรประมาณ 30 แล้ว เขาคือบุคคลที่อยู่คู่กับช่อง G-Square มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง เป้นพิธีกรหลายรายการมากในช่องนี้ แถมยังเล่นเกมเก่งสมกับมีคำนำหน้าว่า เซียน

และที่เด็ดกว่านั้น กระทุ้ผม ถูกคัดเลือกมาอ่านออกรายการ ให้ผู้ชมเป็นร้อยได้รับทราบ แน่นอนครับ ชื่อ GOODMAN ของผม ก็ถูกอ่านออกอากาศด้วย กระทุ้ผมถูกอ่านออกอากาศถึง 3 ครั้ง แต่ครั้งล่าสุดคือเมื่อ 1 เดือน ที่แล้ว กระทู้ผมที่ถูกนำไปออกอากาศได้สร้างตำนาน มุขclassic มุขหนึ่งขึ้นมา มุขที่ทำให้เซียนอ๊อตโตะ โดนพิธีกรร่วมอีก 3 คน ล้อเรื่องชื่อจริงของเซียนมาจนถึงตอนนี้ คือ ผมดันไปทักทายเซียนด้วยการนำเอาชื่อจริงเขามาทักทาย และไม่คิดว่ากระทู้นั้นจะได้รับการนำมาอ่านออกอากาศ

แล้วหลังจากนั้น การเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้น ตั้งแต่ในรายการ ยันในเว็บบอร์ด หลายคนที่เขามาตั้งกระทู้ เริ่มเรียกชื่อจริงๆของเซียน แทนที่จะเรียกว่า เซียนอ๊อตโตะ เริ่มมีการขุดชื่อจริงของพิธีกรทั้ง 3 มาล้อกัน แถมมีอยุเทปหนึ่งเมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว ที่ทีมงานฝ่ายตัดต่อ เล่นเอาชื่อจริงของเซียน มาใส่ไว้ใต้ชื่อ Otto ตอนเปิดรายการ ให้ตายเถอะจอร์จ นี่ชื่อเรากลายเป้นที่จดจำและกลายเป้นต้นตอมุขใหม่ของรายการไปเลยหรือเนี่ย

แถม ยังมีอยู่เทปหนึ่ง ที่เซียนอ๊อตโตะ ออกมากล่าวเรื่องที่มีแฟนๆรายการหลายคน โทรมาเรียร้องให้ปรับเวลามาเป็น 1 ชั่วโมงตามเดิม เซียนอ๊อตโตะ ก็กล่าวชื่อแฟนรายการทั้งสามคนที่โทรเข้ามา แล้วยังไม่ทันที่เขาจะกล่าวชื่อที่สามโดยพูดค้างอยู่ที่คำว่า "น้อง..." หนึ่งในพิธีกรที่ชื่อ แก่ง ก็พูดขึ้นมาว่า " GOODMAN " แหม ชื่อผมเข้าไปอยู่ในความทรงจำของพิธีกรคนนี้ซะแล้ว

เรื่องชื่อมผถูกอ่านออกอากาศนี่ น้องหย๋ายืนยันได้เลย เพราะน้องหย๋าคือแฟนรายการนี้เช่นกัน

ถ้า ไม่นับที่นี่ ก็มี เว็บบอร์ดของ Play Crash นี่แหล่ะ ที่ผมเข้าไปบ่อยที่สุด ส่วนที่อื่นๆก็ เข้าไปพอแค่หอมปากหอมคอ ไปเก็บข้อมูลที่อยากรุ้จริงๆ โพสเรื่องที่อยากถามอยากนำเสนอเพียงไม่กี่อย่าง

ตอนแรกกะจะไปสมัคร GJ search กับทางช่องนี้ แต่แหม เรื่องเกมก็รู้แค่ไม่กี่เกม ให้คนอื่นไปทำดีกว่า

บังเอิญที่นั่น ไม่มีฟังก์ชั่นลงรูป หรือ บอร์ดแยกสำหรับพูดเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับรายการ

ที่นั่นมีคนไปโพสไว้เยอะสุดๆ กระทู้เอยะซะจน เวลาจะเข้าไปในบอร์ดต้องรอพอควร เพราะข้อมูลเอยะ ทำให้กอนกำลังในการโหลดข้อมูล

ตอน นี้ก็ยังจับตาดูอยู่ว่า ทีมงานที่นั่น จะนึกสนุกเอาสิ่งที่ผมเขียนไปอ่านออกอากาศอีกมั๊ย แต่ เซียนอ๊อตโตะ ก็ยังแวะมาตอบอยุ่บ้างแม้จะไม่ทุกกระทู้ ทั้งที่เซียนเขาก็ดูท่าว่าจะมีงานเยอะมาก แต่ยังมีเวลามาอ่านมาตอบกระทุ้แฟนๆรายการด้วย

แหม ไอ้สิ่งที่เรียกว่า อินเตอร์เน็ตนี่ มันดีจริงๆ ทั้งข้อมูลทำรายงาน/การบ้าน หนังคูณ มิวสิควีดีโอ รูปภาพดารา ประวัติคนดัง ส่งตรงเข้ามถึงหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่บ้านท่าน และในยุคที่ไม่มีอินเตอร์เน็ต การจะแสดงความเห็นของตัวเองให้คนหมู่มากรับรู้ เป้นเรื่องที่ยาก กินเวลานาน อาจจะต้องใช้เงินพอควร แต่พอมีอินเตอร์เน็ต สิ่งเหล่นี้ก็ทำได้ง่ายสุดๆ

และสิ่งที่เรียกว่า อินเตอร์เน็ต ก็ทำให้ผมได้รุ้ว่า มีผู้คนอีกมากมายนับร้อยนับพันคน ทั้งในไทยและในต่างประเทศ ที่มี รสยิยมบางประการ เหมือนกับผม นึกถึงประโยคในโฆษณาของ IBM นานมาแล้วที่ว่า "แค่เสียบปลั๊ก โลกทั้งใบ จะเป็นของคุณ"

และคนที่ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า internet ขึ้นมา ก็คือ กระทรวงกลาโหมของ usa นี่แหล่ะ ในช่วงยุค 80 ที่มีการพยายามเชื่อมต่อการสื่อสารของเครือข่ายฐานทัพ usa ทั่วโลกให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด internet ถูกสร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์นี้ ก่อนที่พัฒนามาเพื่อประชาชน อย่างผม และทุกคนในโลกนี้

วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2552

ครบรอบ 8 ปี วินาศกรรม 11 กันยายน




วันนี้เมื่อ 8 ปีที่แล้วตอนเช้าก่อนเวลาทำงานในอเมริกา มีโศกนาฏกรรมทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 3,017 บาดเจ็บมากกว่า 6,291 คน

เมื่อต้นปี 2007 ที่ได้ดูข่าว การประหารชีวิต ซัดดัม ฮุสเซ็น รู้สึกสะใจมาก เหม็นขี้หน้าไอ้เวรนี่ กับคนของมันที่ล้างสมองประชาชนแบบผิดๆมาตั้งแต่สมัยไหนแล้ว และขอให้ไอ้เวรตัวการก่อวินาศกรรมครั้งนี้ รวมถึงผู้ประสงค์ร้ายต่อสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆในลักษณะเดียวกัน จงพบแต่กับความชิบหายวายป่วง และสมควรแล้วที่พวกมันจะตาย เพราะกระสุนปืนจากทหารอเมริกันรวมถึงลูกระเบิดที่ถูกทิ้งจากเครื่องบินรบของชาติอเมริกันด้วย

ขอไว้อาลัยให้กับความสูญเสียในวันที่มี "เลขเก้า" เข้าไปเกี่ยวข้องอีกวันนึง

วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552

cargo plane ( 7734 ) มาแล้ว






ได้มาตั้งแต่เสาร์ที่แล้วและต่อเสร็จในวันนั้น รูปตอนต่อเสร็จยังไม่ได้ถ่าย

ได้มาในราคา 2,220 บาท จาก aventthai ราคาในห้างฯปกติขาย 3,170 บาท ชุดนี้ออกมาตั้งแต่ปี 2005 แล้ว จากที่เห็นปีที่ผลิตระบุไว้ที่ชิ้นส่วนปีก และนี่คือครั้งแรก ที่เจอ lego city ผลิตในจีน

ตอนนี้สงสัย คงต้องเผื่องบสำหรับหาเพลทถนนและเพลทสีเทามาสร้างรันเวย์ซะแล้ว เผลอๆต้องหาโต๊ะใหม่มาต่อเสริมจากโต๊ะโชว์เดิม (lego city เริ่มยึดห้องแล้ว)

ภาพสุดท้ายนี่ ไม่รู้ว่าทุกกล่องเป็นเหมือนกันหรือเปล่า หรือเป็นที่กล่องผม เพราะมีสติ๊กเกอร์ตั้ง 2 ชุด ตอนแรกดุผ่านๆก้นึกว่ามันแยกส่วนซ้ายขวา ที่ไหนได้ มันมี 2 ชุดจริงๆ

วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2552

Thairetrogame เว็บไซต์สำหรับผู้รักในวีดีโอเกมส์ยุคเก่า



www.thairetrogame.com

ไมว่าจะ console game, เกมพกพา, เกมคอมพิวเตอร์ ไล่มาจากอดีคคั้งแต่พวก Famicom, Megadrive, Gameboy ยุคแรกที่เป็นจอภาพขาวดำ จนมาถึงยุคปัจจุบันอย่างเครื่องแบบ next gen. อย่าง Wii, PS3, XBOX 360 ที่เราคุ้นตากันในปัจจุบัน มีบทความจากผู้สันทัดในเรื่องนี้มากมาย แทบจะเรียกได้ว่าเป็น encyclopediaของเกมยุคเก่าเลยก็ว่าได้ เว็บบอร์ดให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและถามปัญหามีอะไรดีๆให้ดูเยอะครับ

วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2552